ครอบครัวร้องกองปราบฯ คดีตชด.กลายเป็นศพลอยแม่น้ำไม่คืบ

ครอบครัวเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบ หลังคดีการเสียชีวิตของ ตชด.วัย36 ที่กลายเป็นศพลอยแม่น้ำไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.นางทองเอื้อน ใจบิดา อายุ 61 ปี น.ส.เบญจมาศ ทองดาดาษ อายุ 40 ปี ชาว จ.อุทัยธานี  มารดาและภรรยาของ ด.ต.นพดล ใจบิดา อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 347 อ.อุ้มผาง จ.ตาก พร้อมด้วยญาติพี่น้องกว่า 10 คน เดินถือรูปหน้าศพของ ด.ต.นพดล เข้าพบ พ.ต.ต.ปัญจนัฐ นกร่อน สารวัตรสอบสวนกองกำกับการ 4 กองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ ด.ต.นพดล หลังผ่านมานับเดือนแต่คดีกลับยังไม่มีคืบหน้าเท่าที่ควร

น.ส.เบญจมาศ กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ผู้ตายได้โทรศัพท์ติดต่อมาบอกกับตนเองว่าจะเดินทางกลับมาบ้าน ที่ จ.อุทัยธานี ในวันที่ 15 ส.ค. แต่ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. ก็ได้โทรศัพท์กลับมาบอกตนอีกครั้งว่ากำลังจะกลับบ้าน จากนั้นจะเดินทางไปร่วมงานศพเพื่อนที่ จ.พิจิตร โดยจะขับรถไปพร้อมกับเพื่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดเดียวกัน กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. เพื่อนของสามีก็ได้โทรมาหาตนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงคล้ายกับเมาสุราว่ากำลังแวะพักกินข้าวอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ก่อนจะขาดหายการติดต่อไปในที่สุด

น.ส.เบญจมาศ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 วัน ก็ทราบข่าวว่าสามีได้กลายเป็นศพลอยน้ำอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ท้องที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งสภาพศพที่พบในตอนนั้นอยู่ในสภาพเปลือยกายสวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว  มีรอยเขียวช้ำที่ลำคอ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ส่วนเพื่อนตำรวจอีก 2 คนที่มาด้วยกันนั้นได้เดินทางกลับไปยัง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โดยนำเสื้อผ้าและสิ่งของติดตัวของ ด.ต.นพดล กลับไปด้วย ทำให้ตนสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครรู้ว่า ด.ต.นพดล เสียชีวิตแล้ว และทำไมเสื้อผ้าของใช้ของ ด.ต.นพดล จึงไปอยู่ที่ เพื่อนตำรวจทั้ง 2 นายนั้น  ตนและครอบครัวจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ แต่จนถึงวันนี้เหตุการณ์ผ่านมานับเดือนกลับยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยเจ้าหน้าที่บอกเพียงแค่ว่าสามีตนเสียชีวิตจากการจมน้ำ

น.ส.เบญจมาศ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่สามีจะเสียชีวิตได้มีปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งสิทธิการครอบครองบ้านหลังหนึ่งที่ ด.ต.นพดล ลงทุนสร้างให้ กับอดีตแฟนสาวของสามีตนและเป็นเพื่อนของภรรยาของหนึ่งในเพื่อนตำรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ยังไม่สามารถตกลงกันได้จึงทำให้เชื่อว่าการเสียชีวิตของสามีตนน่าจะมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง ตนและครอบครัวจึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมจากกองปราบให้ช่วยติดตามคดีดังกล่าวในวันนี้

ด้าน นางทองเอื้อน มารดาของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม้เวลาจะผ่านมานับเดือนแต่จนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และยังเคลือบแคลงสงสัยในสาเหตุการตายของบุตรชายมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เคยไปให้ร่างทรงสำนักทรงแห่งหนึ่งช่วยดูและสื่อถึงดวงวิญญาณของบุตรชาย ซึ่งท่านได้ทักว่าว่าบุตรชายของตนถูกฆาตกรรมเสียชีวิตจากคนใกล้ตัว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ พร้อมกับสอบปากคำทางญาติของผู้ตาย ก่อนจะประสานเรื่องส่งต่อให้กับทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป