posttoday

กปปส.-ปชป.แยกกันเดิน ประชามติระส่ำ

29 กรกฎาคม 2559

ชัดเจนแบบไม่มีกั๊กกับท่าทีล่าสุดของ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลไม่ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง สิทธิ ทุจริต และแก้ปัญหาความขัดแย้ง

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ชัดเจนแบบไม่มีกั๊กกับท่าทีล่าสุดของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดหน้าประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลไม่ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง สิทธิ ทุจริต และแก้ปัญหาความขัดแย้ง

พร้อมจุดยืนเสนอทางออกกรณีร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นคนนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยตัวเอง โดยปัดฝุ่นนำร่างรัฐธรรมนูญ​ฉบับ 2550 มาปรับปรุงแก้ไขเพราะถือว่าเคยผ่าน “ประชามติ” มาแล้ว

กระแสตอบรับมีทั้ง “เสียงเชียร์” และ “เสียงด่า” เพราะเอาเข้าจริงไม่ว่า อภิสิทธิ์ จะประกาศ “รับ” หรือ “ไม่รับ” ก็ย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นปกติในบรรยากาศที่ความขัดแย้งยังคงอยู่ในสังคม

ประเด็นที่ต้องติดตามอยู่ที่ท่าทีความสัมพันธ์ระหว่าง กปปส.​ และประชาธิปัตย์ ที่ขาดสะบั้น​จนยากจะประสาน

เมื่อจุดยืนของ สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ประกาศตัวชัดเจนว่า รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลความชื่นชอบตั้งแต่คำปรารภพร้อมออกเฟซบุ๊กนำเสนอข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญรายวัน

สวนทางกับจุดยืนของ อภิสิทธิ์ ที่เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีจุดเสียมากกว่าจุดดี

แม้การประกาศจุดยืนของ อภิสิทธิ์ จะถูกมองว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ “มติพรรค” ที่ผูกมัดให้ลูกพรรคต้องยึดถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

แต่ทาง องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าจุดยืนของหัวหน้าพรรคก็เหมือนกับมติพรรคกลายๆ ที่ตามธรรมเนียมลูกพรรคควรจะยึดถือปฏิบัติตาม

ที่สำคัญ ​อภิสิทธิ์ ออกตัวตั้งแต่เริ่มต้นแถลงว่าไม่เป็นแค่การแถลงเป็นความเห็นส่วนตัวเพราะเป็นจุดยืนที่แสดงในฐานะหัวหน้าพรรคบนพื้นฐานอุดมการณ์พรรคและการดำเนินการพรรคมาตั้งแต่ก่อตั้งปี 2489

​“ไม่ใช่ความชอบไม่ชอบส่วนตัวแต่เป็นการสานต่ออุดมการณ์ที่สำคัญ จุดยืนที่จะแถลงเป็นการยืนยันและสืบสานอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และแสวงหาคำตอบให้กับอนาคตประเทศไทย โดยการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอยู่บนหลักคิดที่ว่าเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญตอบโจทย์ประเทศไทยหรือไม่” ​

ปัญหาอยู่ที่ลูกพรรคฝั่ง กปปส.หลายคนประกาศตัวเป็นเอกเทศไม่สนใจจุดยืนหัวหน้าพรรค ที่ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่าง กปปส.​และประชาธิปัตย์

ล่าสุด ถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวว่า ศึกษาถี่ถ้วนแล้ว จึงประกาศรับร่างรัฐธรรมนูญนี้ โดยมั่นใจว่า ร่างนี้จะสามารถแก้ไขข้ออ้างความเป็นประชาธิปไตยในความหมายของระบอบทักษิณได้ ด้วยความเคารพหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตนมองต่างมุม และยืนยันว่า ผมยังมีอุดมการณ์พรรคเช่นเดียวกัน

สอดรับกับท่าทีของ แทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย สุเทพ ที่โพสต์เฟซบุ๊ก “คุณอภิสิทธิ์ พูดเรื่องดีๆ มีเหตุผล เสียดายคนไทยไม่ฟัง เอาแต่ด่าเอามันตามกระแสอย่างเดียว รับก็ด่า ไม่รับก็ด่า!! ถ้าผมเป็นคุณอภิสิทธิ์ จะลาออกจากหัวหน้าพรรค เลิกเล่นการเมือง ไปทำงานองค์กรต่างประเทศอย่าง UN หรือ WTO ซะเลย”

อีกด้านทางฝั่งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์​พร้อมใจกันตบเท้าออกมาสนับสนุนจุดยืนของอภิสิทธิ์ ไล่มาตั้งแต่ พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต สส.กระบี่ องอาจ คล้ามไพบูลย์ นิ​พิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บุญยอด สุขถิ่นไทย รัชฎาภรณ์ ​แก้วสนิท อดีต สส.ระบบบัญชีรายชื่อ ณัฐ บรรทัดฐาน ​อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ รัชดา ธนาดิเรก อดีต สส.กรุงเทพมหานคร ที่พร้อมใจโพสต์เฟซบุ๊กสนับสนุน

แม้แต่นายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษายังส่งสัญญาณเชียร์การตัดสินใจของ อภิสิทธิ์ ​จุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญยิ่งสะท้อนให้เห็นรอยร้าวใต้ชายคารั้วพระแม่ธรณีที่ชัดเจนขึ้น และไม่รู้ว่ารอยร้าวนี้จะสามารถประสานเยียวยาได้มากน้อยแค่ไหนในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมหลังการออกมาประกาศจุดยืนของอภิสิทธิ์ครั้งนี้ ย่อมทำให้เสียง “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญดังขึ้นกว่าเดิม เพราะแม้จะไม่ใช่เสียงสะท้อนในภาพรวม​ทั้งหมดของสมาชิกพรรคหลายล้านคน แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าจุดยืนครั้งนี้เป็นการตอบโจทย์ตามอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์

เมื่อรวมกับเสียงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญทั้งจากฝั่งเพื่อไทย แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มเอ็นจีโอ เครือข่ายพลเมืองผู้ห่วงใย ย่อมทำสั่นคลอนต่อการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.นี้ อย่างมีนัยสำคัญ​​​

ข่าวล่าสุด

จบสวยปี68! “ชนินทธ์” ถือหุ้นใหญ่ “ชนัตถ์และลูก” ขยับยืนหนึ่ง DUSIT