posttoday

ปิดฉากคดีคลิตี้ศาลฎีกาสั่งบริษัทตะกั่วชดใช้เงินกว่า20ล้านบาท

14 กรกฎาคม 2559

ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อมสั่งบริษัทตะกั่วชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวกะเหรี่ยงคลิตี้กว่า 20 ล้านบาท

ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อมสั่งบริษัทตะกั่วชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวกะเหรี่ยงคลิตี้กว่า 20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 6 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา (แผนกคดีสิ่งแวดล้อม) คดีแพ่งหมายเลขดำ ที่ 106/2546 หมายเลขแดง ที่ 1565/2549 ระหว่าง นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา ที่ 1 กับพวกรวม 8 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยที่ 1 และ นายคงศักดิ์ กลีบบัว จำเลยที่ 2 รวม 2 คน ในข้อหา ละเมิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยชาวบ้านที่มาร่วมฟังคำพิพากษาได้นำรูปชาวบ้านในหมู่บ้านที่ได้รับพิษจากสารตะกั่วและร่วมต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมมาด้วยกันนานนับสิบปีที่เสียชีวิตไปก่อนจะได้รับความเป็นธรรมมาร่วมฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ด้วย โดยมี นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน กรรมการสิ่งแวดล้อม ทนายความผู้ช่วยเหลือคดีจากสภาทนายความ และกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ นำโดย นางภินันท์ โชติรสเศรณี นายบุญส่ง จันทร์ส่งรัศมี เข้าร่วมรับฟัง ส่วนฝ่ายจำเลยไม่ได้ส่งทนายความและผู้ใดมาร่วมรับฟังแต่อย่างใด โดยศาลจังหวัดกาญจนบุรีใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา นานกว่า 2 ชั่งโมง จึงแล้วเสร็จ

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา เปิดเผยว่า วันนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา (แผนกคดีสิ่งแวดล้อม) โดยศาลเห็นว่าการเจ็บป่วยของชาวบ้านทั้งหมด ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารตะกั่วมายืนยันว่าเกิดจากการกระทำของผู้ก่อให้เกิดคือ บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และจำเลยที่ 2 คือกรรมการผู้จัดการบริษัทที่เป็นผู้ควบคุมสารตะกั่ว และศาลยังเห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะปล่อยสารตะกั่วลงในลำห้วยคลิตี้ ซึ่งนอกจากจำเลยจะต้องฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ให้กลับมาใช้ได้ดังเดิมแล้ว จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านทั้ง 8 ราย ทั้งค่าไม่สามารถใช้ชีวิตได้ ค่าเจ็บป่วย รวมทั้งค่ารักษาในอนาคตด้วย เป็นเงินจำนวน 20,200,000 บาท

แต่เนื่องจาก บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยที่ 1 ล้มละลาย ส่วน นายคงศักดิ์ กลีบบัว จำเลยที่ 2 เสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็มี นางสุลัดดา กลีบบัว รับมรดกความแทน จากนี้ไปก็จะเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีกับทางฝ่ายคู่กรณี ในการสืบหาทรัพย์และมาชดใช้ให้กับชาวบ้านและฟื้นฟูลำห้วยต่อไป แม้ในวันนี้ชาวบ้านจะยังไม่ได้รับเงินชดเชย แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ชาวบ้านคลิตี้เริ่มมีหวังที่จะได้รับความเป็นธรรมในสิ่งที่พวกเค้าต้องสูญเสียไป ซึ่งถือเป็นคดีประวัติศาสตร์คดีแรกที่มีการบังคับตาม พ.ร.บ.ฯ อันเป็นบรรทัดฐานให้กับคดีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมคดีอื่นๆ ของประเทศไทยที่รอการพิจารณาในอนาคตต่อไป

ด้าน นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา ชาวบ้านคลิตี้ล่างซึ่งเป็น 1 ในชาวบ้านที่ร่วมกันฟ้องร้อง กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับฟังคำพิพากษาแล้วทุกคนต่างก็มีความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาก็ถือว่าสิ้นสุดคดีแล้ว ซึ่งเราต้องขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา เพราะที่ผ่านมากว่า 10 ปี ชาวบ้านคลิตี้ต้องเจ็บป่วยมาโดยตลอด บางคนก็ล้มหายตายจากกันไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ คดีการฟ้องร้องระหว่าง ชาวบ้านคลิตี้ล่าง กับ บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นายคงศักดิ์ กลีบบัว เริ่มฟ้องร้องเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2546 โดยยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 119,036,400 บาท ศาลจังหวัดกาญจนบุรีพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงิน 4,260,000 บาท ก่อนที่ในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2549 โจทก์และจำเลยต่างยื่นอุทธรณ์ต่อศาล และในวันที่ 14 สิงหาคม 2551 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค7 ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินให้กับชาวบ้าน 29,551,000 บาท ก่อนที่จะมีการยื่นฎีกาและมีคำพิพากษาออกมาในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการปิดฉากคดีที่มีการต่อสู้กันในชั้นศาลมายาวนานถึง 13 ปี ด้วยกัน

ภาพประกอบข่าว หมู่บ้านคลิตี้ล่าง

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอังคารที่ 16 ธ.ค. 68