เช้าชามเย็นชาม
โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง
โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง
ข้าราชการที่แท้จริง เป็นผู้เสียสละทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างซื่อสัตย์สุจริต ภายใต้ค่าตอบแทนที่ต่ำต้อย ต่ำกว่าภาคเอกชนอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ค่าตอบแทนของข้าราชการจะต่ำ แต่ก็มีสวัสดิการที่ดี รัฐไม่ทอดทิ้ง ยังเลี้ยงดูแม้จะเกษียณอายุราชการแล้วก็ตาม นอกจากนี้ข้าราชการมีเกียรติ มีตำแหน่ง และมีความมั่นคงที่แม้ประสิทธิภาพการทำงานจะต่ำเตี้ย แต่ถ้าไม่ทุจริตก็จะไม่ถูกไล่ออก
เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ทำงานภาคเอกชนเป็นนายธนาคาร ได้รับเงินเดือนมากกว่าท่านหลายสิบเท่า เทียบง่ายๆ ว่ารับราชการในตำแหน่งผู้บริหารเงินเดือน 4-5 หมื่นบาท แต่นายธนาคารมีรายได้เดือนละ 1 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เรียนมาด้วยกัน รู้ฝีมือรู้ความสามารถว่าเพื่อนที่เป็นนายธนาคารไม่ได้มีความสามารถเก่งกว่าเลย
ฉะนั้น ข้าราชการที่ท่านทำงานจนเกษียณอายุ โดยไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ทำงานตรงไปตรงมา กล้าตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของราชการ จึงได้สมควรยกย่องและสมควรแล้วที่รัฐจะต้องดูแลต่อไปในวัยหลังเกษียณ
เนื่องจากงานราชการเป็นงานที่ใช้อำนาจรัฐ ฉะนั้นข้าราชการจึงมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะให้คุณให้โทษกับประชาชนหรือแม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ กฎหมายจึงต้องควบคุมการใช้อำนาจ ด้วยการกำหนดโทษมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพื่อเป็นการป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางที่ไม่สุจริต แต่การป้องกันที่เข้มงวดและรุนแรงจะส่งผลในมุมกลับ คือทำให้ข้าราชการไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าตัดสินใจอะไรที่มีความเสี่ยง เพราะเกรงจะถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ
ข้าราชการส่วนหนึ่งจึงเลือกที่จะทำงานอยู่ในกรอบ ไม่กล้าคิดนอกกรอบ อะไรที่ตัดสินใจแล้วมีความเสี่ยงก็จะใช้วิธีอยู่เฉยๆ ไม่ยอมเปลืองตัว ยิ่งถ้าการทำงานไปกระทบกับผู้มีอำนาจ มีบารมี ยิ่งไม่อยากเข้าไปรู้เห็น หรือไม่ก็อาจลู่ลมรับผลประโยชน์นอกลู่นอกทาง หรือไม่ก็ปล่อยให้เกิดปัญหาและเก็บปัญหาไว้รอให้คนอื่นมารับปัญหา เพราะวันหนึ่งก็ย้ายหรือไม่ก็เกษียณอายุ
ปัญหาร้ายแรงจำนวนมากที่เกิดอยู่ในวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่ทำงานของข้าราชการ เป็นพวกใส่เกียร์ว่างไม่กล้าตัดสินใจ ไม่อยากดำเนินการใดๆ ที่เป็นความเสี่ยง ตัวอย่างของหน่วยงานที่เป็นต้นเหตุของปัญหาใหญ่โตที่เกิดขึ้นให้ได้เห็นกันในปัจจุบัน เช่น
กรุงเทพมหานครหน่วยงานนี้ไม่อยากจะเรียกว่า เช้าชามเย็นชาม แต่ต้องแถมว่าดึกๆ ยังล้างปากด้วยไวน์ชั้นดีจนเมามาย
คนกรุงเทพฯ จะรู้ดีว่า เพียงแค่ต่อเติมหลังบ้าน ซึ่งแม้เพื่อนบ้านยังไม่รู้ แต่เจ้าหน้าที่โยธาเขตเขารู้ เป็นพวกจมูกเป็นเลิศ แค่เห็นรถบรรทุกทรายก็รู้แล้วว่า บ้านไหนต่อเติมโดยไม่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ในวันนี้ ฝนตกเมื่อไหร่น้ำท่วมเมื่อนั้น
ขอประทานโทษครับ ต้องเรียกว่าฝนตกเมื่อไหร่จะมีน้ำรอการระบายทุกครั้ง
คำว่าน้ำรอการระบายก็แปลว่า ปัญหาอยู่ที่การระบายน้ำ กระบวนการระบายน้ำตั้งแต่ท่อระบายน้ำริมถนนไปจนถึงอุโมงค์ระบายน้ำมีปัญหา แต่กลับปรากฏว่าที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพฯ ดำเนินการทำความสะอาด ลอกท่อระบายน้ำเลย ไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีการนำนักโทษลอกท่อระบายน้ำให้ได้เห็นบ้าง หากกรุงเทพฯ เตรียมการลอกท่อระบายน้ำไม่ให้มีขยะอุดตัน ไม่มีโซฟา ไม่มีผักตบชวามาขวางทางระบายน้ำ คุณน้องน้ำก็สามารถระบายไปสู่อุโมงค์ยักษ์ที่ผู้ว่าคุยนักคุยหนาว่าป้องกันน้ำท่วมได้ ไม่ต้องเป็นน้องน้ำที่รอการระบายหลายชั่วโมงอย่างเช่นที่เกิดขึ้น
หน่วยงานที่ก่อให้เกิดปัญหาหมักหมมจนถึงปัจจุบันอีกหน่วยงานหนึ่งคือ กรมป่าไม้ ที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวนถูกบุกรุกนำมาสร้างรีสอร์ทมากมาย บริเวณวังน้ำเขียวเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด มีการทำผิดกฎหมายโจ่งครึ่ม แต่ไม่เคยมีการห้ามปรามหรือดำเนินคดีมาก่อน รอจนมีการก่อสร้างอาคารมั่นคงใหญ่โต จนเป็นข่าวดังสะกิดต่อมสำนึกในหน้าที่ว่าจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย
การก่อสร้างรีสอร์ทใหญ่โตไม่ได้สร้างในวันเดียวหรือเดือนเดียว แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนหลายปี ถามว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่รู้เลยหรือว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า เป็นพื้นที่ในเขตความรับผิดชอบของตนเอง ไม่รู้จริงๆ หรือมีม่านสีม่วงสีเทามาบังตา ยิ่งหากถ้าเปรียบเทียบกับชาวบ้านเก็บของป่า ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดต่อเนื่อง และไม่ได้โจ่งครึ่มเหมือนสร้างรีสอร์ท แต่เจ้าหน้าที่กลับตรวจสอบพบได้ หรือกรณีชาวบ้านไม่มีม่านม่วงม่านเทาบังตาเจ้าหน้าที่
ล่าสุด กรณีเวิลด์พีซ วัลเลย์ เขาใหญ่ ของลัทธิจานบินธรรมกาย ที่ไปปลูกสร้างอาคารอันอลังการใหญ่โต ทั้งเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเอง หรือเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยมีข่าวเลยหรือว่า มีการก่อสร้างอาคารอลังการใหญ่โตในพื้นที่ความรับผิดชอบของตนเอง หากไม่เป็นข่าวใหญ่โตตามสื่อต่างๆ ผู้บริหารนิคมสร้างตนเองก็ดี เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจะออกมาตรวจสอบที่ดินหรือไม่ ก็ต้องขอถามทั้งสองหน่วยงานว่า ไม่รู้จริงๆ หรือมีม่านม่วงม่านเทาบังตา
อีกหน่วยงานหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และน่าจะต้องรวมถึงมหาเถรสมาคมด้วย ที่ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการกับอลัชชีเจ้าลัทธิจานบิน ที่นอกจากอวดอุตริแล้ว ยังสอนผิดเพี้ยนมานานมากแล้ว แต่สำนักพุทธฯ ไม่เคยดำเนินการใดๆ เลย สำหรับมหาเถรสมาคม กรรมการเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ที่ต้องรู้ธรรมวินัย ต้องรู้ว่าคำสอนของลัทธิธรรมกายผิดเพี้ยน ขัดต่อหลักธรรมในพระไตรปิฎก
ถ้ากรรมการบางท่านจะบอกว่า ที่ได้เป็นกรรมการมหาเถรเพราะอยู่มานาน ไม่ได้เก่งกาจหรือเข้าใจพระธรรมวินัยลึกซึ้งอย่างไร ก็ควรต้องฟังผู้รู้ ในเรื่องนี้ ท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตฺโต ได้เขียนหนังสือกรณีธรรมกาย อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่าลัทธิธรรมกายไม่ใช่พุทธ คำสอนของธรรมกายขัดต่อหลักธรรมวินัยธรรมกายอาศัยเพียงรูปแบบพุทธเพื่อทำมาหากิน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระลิขิตถึง 5 ฉบับชี้ชัดๆ ว่าธัมมชโยเป็นปาราชิก แต่นอกจากมหาเถรจะไม่ดำเนินการตามพระลิขิตแล้ว ยังกลับไปอุ้มชูปกป้องธัมมชโย จนมีคนติฉินนินทากันว่า กรรมการ มส. หลายองค์ มองไม่เห็นการกระทำผิดของเจ้าลัทธิจานบิน เพราะมีม่านสีม่วง ม่านสีเทาและม่านสีทองปิดบังตา ทำให้มองไม่เห็น
ปัญหาที่เกิดขึ้น หากมีการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่แรก ไม่ปล่อยให้ปลูกสร้างใหญ่โต ไม่ปล่อยให้จานบินหลอกลวงชาวบ้านจนมีเงินซื้อใครก็ได้ในประเทศนี้ การแก้ปัญหาก็จะไม่ยาก
การโค่นล้มต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาหยั่งรากลึกยอมทำได้ยาก ฉันใดการแก้ปัญหาจานบินก็ยากฉันนั้น


