ครู ก.ข.ค.
วันนี้จั่วหัวเรื่อง ครู ครู และก็ครู บางท่านอาจจะกำลังงงว่าจะพูดเรื่องอะไร แต่บางท่านก็อาจจะทราบว่าเป็นเรื่องอะไร
โดย...เจษฏ์ โทณะวณิก
วันนี้จั่วหัวเรื่อง ครู ครู และก็ครู บางท่านอาจจะกำลังงงว่าจะพูดเรื่องอะไร แต่บางท่านก็อาจจะทราบว่าเป็นเรื่องอะไร ทั้งนี้ในช่วงนับตั้งแต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้แล้วเสร็จ ก็เดินสายของ กรธ. รวมถึงบรรดาอนุกรรมการ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายเพื่ออธิบายรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญให้กับตัวแทนในระดับต่างๆ ซึ่งให้ชื่อกันเป็น ครู ก. นั่นคือ ระดับจังหวัด ครู ข. นั่นคือ ระดับอำเภอ และ ครู ค. นั่นคือ ระดับตำบล-หมู่บ้าน การอธิบายนี้ก็จะมีการเดินทางไปร่วมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งในส่วนหลังนี้ก็จะมีการอธิบายที่มา ที่ไป รายละเอียด ความเชื่อมโยงกับร่างรัฐธรรมนูญ และอะไรอื่นๆ ในเรื่องของคำถามพ่วง ที่ว่าในช่วง 5 ปีแรกจะให้รัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาร่วมกันลงมติเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่
เหตุที่มีการจัดตั้ง ครู ก. ครู ข. ครู ค. ก็เพื่อช่วยกันในแต่ละระดับทำความเข้าใจเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ กรธ. อธิบายโดยตรงให้แก่ ครู ก. ในระดับประเทศ ต่อมาครู ก. ประกอบกับการเพิ่มเติมของ กรธ. อธิบายให้แก่ครู ข. ในระดับจังหวัด และ ครู ข. โดยมี ครู ก. ช่วย ประกอบกับ กรธ. อธิบายให้แก่ครู ค. ในระดับอำเภอ ซึ่งท่านอ่านตอนแรกแล้วอาจจะงง เพราะบอกว่า ครู ก. ระดับจังหวัด ครู ข. ระดับอำเภอ ครู ค. ระดับตำบล-หมู่บ้าน แล้วทำไมกลายมาเป็น ครู ก. ระดับประเทศ ครู ข. ระดับจังหวัด ครู ค. ระดับอำเภอ นั่นก็เพราะการอธิบายให้แก่ ครู ก. นั้น ตัวแทนจากแต่ละจังหวัดเข้ามาที่ส่วนกลาง รับฟังจาก กรธ. ส่วน ครู ข. ก็จะมีการจัดให้ตัวแทนระดับอำเภอมาที่จังหวัด และ ครู ค. ก็มีการจัดให้ตัวแทนตำบลและหมู่บ้านมาที่อำเภอ จากนั้น บรรดา ครู ก. ครู ข. และ ครู ค. ก็จะได้ช่วยกันไปอธิบายเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ โดยสามารถช่วยกันจัดเวทีหรือรูปแบบอื่นๆ ที่เห็นเหมาะสม ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน
แน่นอน การถ่ายทอดต่อจาก กรธ. ไปสู่ ครู ก. จาก ครู ก. ไปสู่ ครู ข. และจาก ครู ข. ไปสู่ ครู ค. และท้ายที่สุดกระจายไปตามที่ต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ย่อมจะมีข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บรายละเอียด จากทอดสู่ทอด จะสามารถเก็บรายละเอียดได้หรือไม่ และจะเก็บได้ถูกต้องหรือไม่ ประกอบกับเวลาอธิบายก็จะต้องไม่ไปบอกว่าให้ไปลงประชามติ ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน และต้องระบุข้อเท็จจริง ไม่ใช่ไปเอาความคิดเห็นของตนมาอธิบาย ซึ่งในการนี้ ตัวช่วยที่สำคัญ คือ การมี กรธ. ซึ่งเป็นผู้ร่าง ไปคอยเป็นกำลังและประคับประคองในการอธิบาย ตัวช่วยอีกตัว ซึ่งอาจจะถือได้ว่าสำคัญที่สุด คือ เอกสาร ที่มีทั้งตัวร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบกับ 20 กว่าข้อควรรู้ และ 10 กว่าประเด็นสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญที่อธิบายโดยใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อสื่อให้เข้าใจร่วมกัน
กลไก ครู ก. ครู ข. ครู ค.นี้ จะเป็นเครื่องมือวัดอย่างหนึ่งว่า การทำความเข้าใจรัฐธรรมนูญร่วมกันของคนไทยจะไปได้หรือไม่ เพราะหากสามารถทำความเข้าใจในร่างร่วมกันได้ หากร่างนั้นผ่านออกมาเป็นรัฐธรรมนูญ ก็สามารถที่จะใช้กลไกเดียวกันในการทำความเข้าใจรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งหากประชาชนเข้าใจรัฐธรรมนูญก็อาจจะไม่ได้ถึงขนาดว่าแตกฉาน ก็จะทำให้รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและช่วยกันรักษาไว้


