คุณภาพน้ำทะเลพัทยาเสื่อมโทรมหนัก เร่งลดมลพิษ

เมืองพัทยาออกลดมลพิษ หลังคุณภาพน้ำทะเลเสื่อมโทรม แหลมฉบังหนักสุดเสื่อมโทรมมาก

นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนกรมควบคุมมลพิษ หารือจัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษของเมืองพัทยาช่วงระหว่างปี 2560-2564 หลังจากการประเมินคุณภาพน้ำทะเลในอ่าวพัทยาพบว่าเข้าข่ายเสื่อมโทรม

นายวิรัตน์ จิระศรีไพฑูรย์ ผู้อำนวยการสำนักช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยามีระบบบำบัดน้ำเสียเต็มรูปแบบ แต่พื้นที่ข้างเคียงและเมืองบริวาร เช่น แหลมฉบัง หนองปลาไหล หนองปรือ ห้วยใหญ่ ไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีคุณภาพ ทำให้มีการปล่อยน้ำลงสู่ทะเลก่อนไหลมารวมกันบริเวณหน้าอ่าวพัทยาจึงทำให้คุณภาพน้ำทะเลในอ่าวพัทยาต่ำลงบ้าง

"พื้นที่หนองปรือในปัจจุบันนี้มีการขยายตัวอย่างมาก ทั้งโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และสถานประกอบการเกิดขึ้นอีกมากมาย แต่ทางเทศบาลเมืองหนองปรือไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปตรวจสอบเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขต่อไป" นายวิรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด รวม 60 จุด พบว่าคุณภาพน้ำทะเลส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ มีเพียง 12% อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม และอีก 12% เข้าข่ายเสื่อมโทรมมาก

ส่วนพื้นที่ จ.ชลบุรี นั้นพบว่า พื้นที่คุณภาพน้ำทะเลบริเวณแหลมฉบัง อ.ศรีราชา อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก ขณะที่ชายหาดพัทยากลางเข้าข่ายเสื่อมโทรม ส่วนตลาดนาเกลือ พัทยาเหนือ พัทยาใต้ เกาะล้าน และหาดจอมเทียน อยู่ในภาวะพอใช้ โดยไม่มีพื้นที่ใดที่อยู่ในภาวะน้ำที่มีคุณภาพดี และอาจจะเสื่อมโทรมลงต่อเนื่อง จึงควรดำเนินการจัดทำแผนเพื่อลดและกำจัดมลพิษโดยเฉพาะกรณีของน้ำเสียและขยะมูลฝอย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้น้ำทะเลอาจประสบปัญหาวิกฤตได้ในอนาคต