รวบแก๊งแว้นแข่งรถในถนนเข้าสุวรรณภูมิ ผู้ปกครองอ้างลูกมาถ่ายรูป
สมุทรปราการ - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมจับกุมแก๊งวัยรุ่นซิ่งจักรยานยนต์บนถนนเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้ปกครองลูกอ้างแค่มาถ่ายรูป
สมุทรปราการ - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมจับกุมแก๊งวัยรุ่นซิ่งจักรยานยนต์บนถนนเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้ปกครองลูกอ้างแค่มาถ่ายรูป
จากกรณีที่ มีกลุ่มวัยรุ่นได้นำรถจักรยานยนต์มาขี่แข่งขันกันภายในถนนสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ ประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน ได้รับความเดือดร้อน จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปฎิบัติการพิเศษของสนามบินสุวรรณภูมิ ได้สนธิกำลังทุกฝ่ายวางแผน ปิดล้อมจับกุม โดยใช้กำลังแบ่งออกทั้งหมดเป็น 9 ชุด จนสามารถจับกุมได้สำเร็จเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิโรจน์ ตัสโส รอง ผกก.ปพ.ฯ, พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผินแสง รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ท.อาทิตย์ พลจันทร์ สวป. ด้วย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการ ฝ่ายรักษา ความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ทหาร ชป.ปพัน21รักษาพระองค์ และเจ้าหน้าที่จราจร การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมแถลงจับกุมกลุ่มวัยรุ่นรวม 14 คน พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน ตามมาตราการป้องกันการแข่งขันรถในทาง โดยเจ้าหน้าที่ยึดถือหลักฐานจากภาพวงจรปิด เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.59 เวลาประมาณ 16.40 น.ที่ ผู้ต้องหากับพวกได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาตามถนนสุวรรณภูมิสาย 3 ขาเข้าบริเวณแยก AMF ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ลักษณะประมาทหวาดเสียวและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น โดยมีการขับขี่รถด้วยความเร็วสูง ไปเป็นกลุ่มก้อน ปาดหน้ารถคันอื่นไปมา ยกล้อ ด้วยความคึกคะนอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า"ร่วมกับขับขี่รถด้วยความประมาทหวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น"เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันยังมีผู้ปกครองของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมบางรายแสดงความไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่า บุตรไม่ได้มาก่อความเดือดร้อนรำคาญในเส้นทางสนามบิน แต่เป็นเพียงมารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปเท่านั้น แต่รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการออกมายืนยันว่าการดำเนินการดำเนินคดีในครั้งนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานและเพียงพอในการดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาพจากวงจรปิดที่สามารถบันทึกพฤติกรรมได้ทั้งหมด
ส่วนจักรยานยนต์ของกลางก็จะนำมาตรวจสอบเอกสาร ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป