รถทัวร์กรุงเทพ-ชุมพรตกถนนพลิกคว่ำดับ 7 เจ็บ 25

เพชรบุรี - รถทัวร์โดยสาร กรุงเทพ-ชุมพร พลิกคว่ำตกถนนก่อนชนเสาไฟฟ้า ตาย 7 บาดเจ็บกว่า 25 ราย คาดคนขับหลับใน-ถนนลื่น

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. เวลา 03.15 น. ร.ต.ท.สุรกิจ วรนาม  พนักงานสอบสวน ร้อยเวร สภ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร2ชั้น พลิกคว่ำตกริมถนนชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก  เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณโค้งบ้านหัวดอน หมู่ 8 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี

หลังได้รับแจ้ง จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างสรรเพชรธรรมสถาน ในที่เกิดเหตุพบรถทัวร์โดยสารประจำทาง 2 ชั้น วิ่งระหว่าง กรุงเทพ-ชุมพร พลิกคว่ำชนเสาไฟฟ้า อยู่ริมถนนลักษณะด้านท้ายของตัวรถพาดอยู่บนถนน สภาพพังเสียหายทั้งคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต กระจัดกระจายทั้งติดอยู่ในรถและกระจายอยู่นอกรถ  เจ้าหน้ากู้ภัยและทีมแพทย์และพยาบาล ได้เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้า  และโรงพยาบาลใกล้เคียง ทั้งโรงพยาบาลเขาย้อย โรงพยาบาลเมืองเพชร-ธนบุรี โรงพยาบาลเพชรรัชต์

เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 คน รวมเป็น 7 คน ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีจำนวน 25 คนหนึ่งในนั้นมีคนขับรวมอยู่ด้วย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเลอศักดิ์ แท่นอินทร์ อายุ 46 ปี

จากการสอบสวน ผู้โดยสารที่รอดชีวิตทราบว่า รถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวได้เดินทางออกมาจาก จ.ชุมพร เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 22 พ.ค.มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคัน โดยรถได้วิ่งมาด้วยความเร็ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุสังเกตว่ารถมีอาการส่ายไปมา และรถได้เร่งความเร็วขึ้น ตนจึงได้รัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันไว้ก่อนจนกระทั่งรถได้วิ่งเลยโค้งและเสียหลักพุ่งตกถนนไปชนกับเสาไฟฟ้าแล้วพลิกตะแคงพาดกับไหลกับไหล่ทาง ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถซึ่งกำลังนั่งหลับต่างกระเด็นไปคนละทิศทางส่วนตนรัดเข็มขัดไว้จึงไม่หลุดออกจากเบาะที่นั่งทำให้รอดชีวิตได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนสาเหตุไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ก่อนเกิดเหตุได้มีฝนตกลงมา

ด้าน ร.ต.ท.สุรกิจ วรนาม  พนักงานสอบสวน ร้อยเวร สภ.เมืองเพชรบุรี เผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุของอุบัติเหตุ 2 ประเด็นคือคนขับหลับในและรถวิ่งมาด้วยความเร็วแต่เกิดฝนตกทำให้ถนนลื่นคนขับไม่สามารถบังคับรถได้ พุ่งตกถนนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายดังกล่าว แต่ได้ให้น้ำหนักไปที่หลับในมากกว่า เนื่องจากผู้โดยสารบอกว่าก่อนจะเกิดเหตุเหมือนว่าเครื่องยนต์ได้เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคนขับเหยียบคันเร่งอยู่โดยที่ไม่ได้เบาเครื่องเลย ก่อนรถจะส่ายและตกถนนดังกล่าว เบื้องต้นต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง