กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์

มีการพูดกันในวงกว้างของสังคมแบบเสียดสีและล้อเลียนในโซเชียลมีเดียว่า ประเทศไทยนั้นมีแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เว้นอย่างเดียวคือกฎหมาย เป็นการเสียดสีที่สะท้อนสภาพสังคมคนได้เป็นอย่างดีว่า การตระหนักและการบังคับใช้กฎหมายของผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายไม่เด็ดขาด ทำให้คนไม่กลัวและสร้างปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก

ตัวบทกฎหมายของไทยนั้นได้มีการแก้ไขเป็นระยะ หากกฎหมายใดไม่เป็นสากลหรือล้าสมัยก็มีการยกร่างแก้ไขเป็นระยะ แต่ก็ยังมีปัญหาและโทษว่ากฎหมายไม่ดีอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ควรจะต้องกลับมาพิจารณาว่าสาเหตุมาจากอะไรแน่

ต้องยอมรับว่าขณะนี้ปัญหาสังคมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการปล้นฆ่า ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนกระทำชำเรา ลักทรัพย์และชิงทรัพย์ แม้กระทั่งอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนใหญ่ล้วนมีสาเหตุมาจากการดื่มสุราจนมึนเมา ขาดสติ หลังจากนั้นก็ไปก่อเหตุร้าย โดยอธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุว่า ปัญหาความรุนแรงจากการดื่มสุราในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏเป็นข่าวไม่น้อยกว่า 10 ราย/เดือน

นั่นเป็นการนับจากการเป็นข่าวตามสื่อสารมวลชนต่างๆ แต่ยังมีคดีที่ไม่เป็นข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ยอมรับว่า การรับแจ้งเหตุในปีงบประมาณ 2558 คดีอาญามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากปีก่อนหน้า สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา

ประเทศไทยมีกฎหมายที่ระบุว่าห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายสุราแก่เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มีการกำหนดเวลาจำหน่ายสุราเป็นช่วง ห้ามจำหน่ายสุราในปั๊มน้ำมัน ห้ามโฆษณาเหล้าเบียร์ตามสื่อต่างๆ แต่ปัญหาการดื่มสุราของคนไทยก็ยังไม่ลดลง แถมความรุนแรงจากการดื่มสุรากลับมีมากขึ้น และคนที่ไร้ความรับผิดชอบเหล่านี้ก็ไปละเมิดบุคคลอื่นเพราะขาดสติจากการ
ดื่มสุรา

ตัวอย่างกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยวัยรุ่นรุมทำร้ายชายพิการจนเสียชีวิตเพียงเพราะเมาสุราขาดสติ แค่เพียงปะทะคารมกันด้วยความคึกคะนองกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนถึงขั้นเกิดความสูญเสีย หรือในกรณีวัยรุ่นรุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีการเผยแพร่คลิปทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศชาติไปทั่วโลก

เรื่องนี้ทางสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ก็รวมตัวเรียกร้องให้เอาผิดกับร้านค้าที่จำหน่ายเหล้าให้เยาวชน เพราะผิดกฎหมายอย่างชัดเจน สาเหตุมาจากหลายประเด็นแต่ต้นตอของปัญหามาจากการขาดสติเพราะดื่มสุรา จึงต้องเอาผิดจากผู้จำหน่ายด้วยเพื่อให้เข็ดหลาบ

การจำหน่ายสุราให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งมี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การลงโทษผู้กระทำผิดที่ต้นเหตุ น่าจะเป็นทางแก้ไขปัญหาได้เด็ดขาดมากกว่าจะมาแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุ และการบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาดเพื่อให้เกิดความหลาบจำและเป็นตัวอย่างเพื่อไม่ให้มีการกระทำตาม จะทำให้สังคมมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น

นอกจากนี้ ทางด้านสังคม รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญและสร้างวัฒนธรรมใหม่ในสังคมขึ้นให้ได้ เลิกระบบอุปถัมภ์และการปฏิบัติสองมาตรฐานกับคน หากเป็นพวกกันก็ลงโทษน้อย แต่ไม่ใช่พวกกันต้องลงโทษให้หนัก

รัฐบาลต้องยอมรับว่า อาชญากรนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเอง ทุกเหตุล้วนมีแรงจูงใจ หากต้องการเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสำหรับทุกๆ คน กฎหมายจะต้องศักดิ์สิทธิ์จะให้คนเคารพกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายจะต้องเข้มงวดและไม่สามารถลดมาตรฐานลงได้