เตือนระวังใช้สเปรย์ฉีดจุดซ่อนเร้นอาจติดเชื้อ
สธ.เตือนสเปรย์น้ำหอมฉีดของลับอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ย้ำระวังโฆษณาเกินจริง
สธ.เตือนสเปรย์น้ำหอมฉีดของลับอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ย้ำระวังโฆษณาเกินจริง
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้พบโฆษณาสเปรย์น้ำหอมฉีดจุดซ่อนเร้น ซึ่งเสนอสรรพคุณว่า มีส่วนผสมของสังกะสีและแร่ธาตุจากธรรมชาติมากมาย สามารถกระตุ้นฮอร์โมนทำให้ประจำเดือนให้มาปกติได้ ช่วยลดกลิ่น ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรค และยังมีการโฆษณาว่าเพียงแค่ฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ลงไปบริเวณจุดซ่อนเร้น สามารถทำให้มีกลิ่นหอมที่เย้ายวนชวนหลงใหลได้โดยไม่ต้องล้างด้วยน้ำเปล่า โดยจ้างเน็ตไอดอลมาโฆษณา
อย่างไรก็ตาม พบว่าบางผลิตภัณฑ์นั้นยังไม่ได้มีการตรวจสอบที่แน่ชัดว่าปลอดภัยจริง สธ.จึงได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบเฝ้าระวังการโฆษณา และดำเนินการตามกฎหมาย
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า การดูแลรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เนื่องจากจะมีการดูแลตามธรรมชาติอยู่แล้วโดยภายในช่องคลอดจะมีเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ตามปกติ หากใช้สารเคมีทำลายแบคทีเรียที่มีอยู่นี้ออกไป จะทำให้แบคทีเรียชนิดอื่นๆ หรือเชื้อราเข้ามาแทน เกิดอาการติดเชื้อ มีตกขาว มีกลิ่นเหม็น แสบ คันได้ การทำความสะอาดจึงไม่แนะนำให้สวนล้างช่องคลอด
“นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะเป็นบริเวณที่ผิวหนังบอบบาง อาจเกิดอาการแพ้ได้ง่าย เช่น คัน มีผื่นแดง มีสารคัดหลั่งสีเหลือง มีกลิ่น มีการปริบริเวณผิวหนัง หากใช้เล็บเกา เชื้อโรคจากเล็บจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้อีก ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะอายไม่กล้ารักษา ปล่อยไว้จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อน มีการติดเชื้อซ้ำเติม ดังนั้นหากมีอาการแพ้ดังกล่าวควรหยุดใช้และให้ไปพบแพทย์ทันที” พญ.มิ่งขวัญกล่าว
ส่วนผู้ที่มีความกังวลเรื่องกลิ่น แนะนำให้ใช้วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอนามัย เช่นเมื่อเข้าห้องน้ำควรล้างให้สะอาดด้วยน้ำ และซับให้แห้ง โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เปลี่ยนผ้าอนามัย 2-3 แผ่นต่อวัน เลือกชุดชั้นในที่มีการระบายอากาศ ไม่รัดเกินไป ลดความอับชื้น รวมทั้งควรงดอาหารประเภทหมักดอง เพียงแค่นี้ก็สามารถลดปัญหาเรื่องกลิ่นลงได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี


