รถไฟสายใต้เปิดวิ่งปกติแล้ว

การรถไฟเปิดวิ่งรถขบวนสายใต้แล้ว หลังยกรถด่วนพิเศษ 43 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี ที่ตกรางออกไปซ่อมแซมที่สถานีชุมพร

เจ้าหน้าที่หน่วยซ่อมบำรุงทางชั่วคราว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้นำหัวรถจักรลากโบกี้โดยสาร ขบวนรถด่วนพิเศษกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ที่ตกรางขวางรางรถไฟที่สถานีแสงแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อวานนี้ นำไปเก็บซ่อมและบำรุงที่สถานีรถไฟชุมพร หลังจากรถไฟขบวนดังกล่าว ชนกับรถกระบะ เป็นเหตุให้คนขับรถกระบะได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้โดยสารรถไฟบาดเจ็บเล็กน้อย 5 คน

เจ้าหน้าที่หน่วยซ่อมบำรุงทางชั่วคราว กล่าวว่า ขณะนี้รถไฟสายใต้ทุกขบวน สามารถวิ่งทุกเส้นทางได้ตามปกติแล้ว แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ รถไฟต้องลดความเร็วให้เหลือ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากรางรถไฟยังอยู่ในความเสียหาย หลังจากที่ชนเข้ากับรถ กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน บต - 8486 ชุมพร ซึ่งมีนางสมใจ จุลเขตร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ที่ 7 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นคนขับรถคันดังกล่าวเพื่อกลับบ้านพักที่อยู่ติดกับจุดตัดรางรถไฟเพียง 20 เมตร  

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ของการรถไฟ ได้เร่งซ่อมแซมเส้นทางที่พังเสียหาย จากการถูกล้อรถครูด จนน๊อตจับตัวราง หักนับร้อยตัว และ หมอนรองรางคอนกรีต ที่แตกอีกกว่า 50 ตัว โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำสมอราง มาทำการยึดตัวรางทั้งสองด้านเพื่อกันไม่ให้รางฉีกออกจากกัน ระยะทางกว่า 800 เมตร เพื่อเร่งเปิดเส้นทางให้รถทุกขบวนสามารถแล่นผ่านได้ตามปกติก่อน โดยรถทุกขบวนเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุนี้จะต้องชะลอความเร็วให้เหลือเพียง 20 กม.ต่อชั่วโมง เนื่องจากหมอนรองรางคอนกรีต ยังไม่สามารถซ่อมได้ทุกตัว เพราะต้องรอขนย้ายมาจากส่วนกลาง คาดว่าอีกประมาณ 2 วัน จะซ่อมบำรุงเส้นทางได้สมบูรณ์และจะเปิดเส้นทางได้ตามปกติอีกครั้ง

สำหรับจุดตัดถนนกับรางรถไฟ บริเวณดังกล่าวจุดเกิดเหตุ เป็นถนนลูกรังตัดข้ามทางรถไฟ ช่วงสถานีรถไฟ ทุ่งคา – แสงแดด  ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งมีเพียงป้ายระหว่างรถไฟ ไม่มีสัญญาณไฟหรือเหล็กกั้นทางแต่อย่าง และเคยเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งแต่ยังไม่ได้การแก้ไขแต่อย่างใดเช่นกัน