ตำนาน 2 พระอรหันต์ ปลุกเสกเหรียญหลวงปู่แหวน
พระเครื่องที่ทรงคุณค่าของพระอริยสงฆ์ไทยยุค 200 ปีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
โดย...เอกชัย จั่นทอง
พระเครื่องที่ทรงคุณค่าของพระอริยสงฆ์ไทยยุค 200 ปีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พิมพ์รูปหล่อที่หลวงปู่แหวนได้นั่งปลุกเสกที่ลานวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ โดยมีหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร พระอริยสงฆ์ ซึ่งพระอาจารย์มั่น ยกย่องว่าเหมือนดอกบัวที่กำลังจะบาน เป็นผู้ทำพิธีเททองหล่อแทนเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2517 โดยวันที่ 16 มี.ค. 2525 นับเป็นวันคล้ายวันเกิดของพระอริยสงฆ์ที่สำคัญยิ่งรูปหนึ่งของชาวไทย คือ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง ใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
สำหรับหลวงปู่แหวนนั้นเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งในประเทศไทยที่มีคนรู้จักทั่วทุกสารทิศ ได้รับความเคารพยกย่องนับถือจากปวงชนชาวไทยทั่วทุกชนชั้น ทุกเพศและทุกวัย นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเจ้าฟ้าทุกพระองค์ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ เรื่อยมาจนถึงประชาชนอย่างเรา เพราะหลวงปู่แหวนเป็นพระปฏิบัติดี ประพฤติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของศาสนาอย่างแท้จริง ซึ่งทุกคนเชื่อกันว่าท่านบรรลุแล้วซึ่งคุณธรรมขั้นสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา
ในสมัยหนึ่งมีผู้เดินทางไปกราบหลวงปู่แหวน โดยนอนค้างอยู่ที่วัดกับคณะของลุงแก้ว ศิริรัตน์ ขณะกำลังเดินทางไปเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่แหวน เข้ารุ่งเช้าหลวงปู่แหวนท่านออกมาเดินจงกรมอยู่หน้ากุฏิ มีนักศึกษาหนุ่มจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไปหาท่าน ก่อนจะถามว่า “หลวงปู่ครับ พระอรหันต์เป็นอย่างไร แล้วหลวงปู่เป็นพระอรหันต์หรือเปล่า”นับเป็นปัญหาที่ถามถูกใจพวกที่มาจากกรุงเทพฯหลายคน จากนั้นหลวงปู่แหวนตอบกลับไปว่า “พุทโธธัมโม สักคำยังไม่รู้จักท่องแล้วจะถามพระอรหันต์ได้อย่างไร” ซึ่งนั่นเป็นธรรมดา เพราะพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้นท่านพูดไม่ได้อย่างเด็ดขาดว่า ใครจะสำเร็จหรือเป็นพระอรหันต์ อย่างท่านเจ้าคุณนรฯ เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ถามท่าน “เขาว่าใต้เท้าสำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือ? ท่านตอบกลับว่า “ไอ้บ้า” เลยถามอีกว่า “หลวงปู่ตายแล้วจะมาเกิดอีกหรือเปล่า” ท่านตอบกลับมาว่า “ไม่มาเกิดอีกแล้ว”
ก่อนที่ท่านจะเล่าไปอีกว่า “ท่านจะถึงช่วงเวลาที่ต้องตายมา 3-4 ครั้งแล้ว ท่านอธิษฐานดูว่า เมื่อท่านตายแล้วจะมาเกิดอีกหรือเปล่า ก็รู้ว่ายังต้องมาเกิดอีก ท่านเล่าอีกว่า ท่านก็อธิษฐานเอาบารมีของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสงฆ์คุณเป็นที่พึ่ง ขออยู่ต่อไปอีกเพื่อทำความเพียรภาวนาจนรู้แน่ว่า เมื่อท่านตายแล้วท่านจะไม่มาเกิดอีก ท่านบอกว่า การมาเกิดอีกเป็นบาปกรรมที่ต้องวนเวียน
เรื่องราวและประวัติของหลวงปู่แหวนมีมากมายล้วนแฝงไปด้วยธรรมอันลึกซึ้ง ดังที่จะยกมาเขียนเพื่อย้ำและเตือนกันอีกครั้ง อย่าทิ้งกันหนา เรื่องศีล 5 เรื่องบำเพ็ญทาน ตั้งความสัตย์ให้ดี จะไปไหนมาไหนเอาพุทโธนี่ละ เป็นมรรคของใจ เอาพุทโธเป็นอารมณ์ของใจ ให้มันรู้อยู่ว่าใจนิ่ง ใจมันเบิกบาน ใจมันสบาย ไปสบายปลอดภัยอันตรายก็ไม่มี นั่นคือโอวาทธรรมของหลวงปู่แหวน ที่อยู่กลางดวงใจของปุถุชนทั่วประเทศไทย แม้ผู้ที่อยู่ห่างไกลจากดอยแม่ปั๋งนับพันกิโลเมตร ก็ยังศรัทธาเดินทางฝ่าความลำบากมา
แน่นอนว่าพระเครื่องของหลวงปู่แหวนหลายคนจับจองเป็นเจ้าของ เหรียญบางรุ่นต้องใช้รถสิบล้อขนขึ้นไปเพื่อปลุกเสกบนดอย เพื่อสนองความต้องการของประชาชน ที่ต้องการวัตถุมงคลที่ท่านได้แผ่บารมีปลุกเสกไว้ ซึ่งมีพระหลวงปู่แหวน คือรูปหล่อหลวงปู่แหวนนั่งในพัทธสีมา ใช้เนื้อโลหะที่สรรหามาเป็นพิเศษ ไม่ใช่การผสมโลหะแบบทั่วไป จากข้อมูลได้รวบรวมไว้เนื้อโลหะที่ใช้สร้างประกอบด้วย
1.ตะกรุดเก่า น้ำหนักหลายกิโลกรัม ที่นักสะสมรุ่นเก่าได้นำมาให้แล้วนำไปให้หลวงปู่แหวนเสกซ้ำอีก ก่อนที่จะนำไปใส่ลงเบ้าหลอม 2.ทองชนวนปนพระกริ่งอรหัง แลพระชัยวัฒน์อรหัง ที่หล่อสร้างถวายหลวงปู่แหวนปลุกเสกเมื่อปี พ.ศ. 2517 3.ทองชนวนพระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิราชาวาส หรือวัดสามปลื้ม เป็นเกจิอาจารย์ที่เด่นดังในอดีตอีกองค์หนึ่ง 4.แผ่นทองแดง 108 แผ่นลงยันต์ 108 ตามตำรับสร้างพระกริ่งโบราณ 5.แผ่นเงิน 14 แผ่นลงนะครอบจักรวาล 14 นะ 6.แผ่นโลหะพิเศษ 3 แผ่น คือ แผ่นทอง แผ่นนาก และแผ่นเงิน ที่หลวงปู่แหวนได้เมตตาลงอักขระให้เป็นพิเศษ
การหล่อรูปเหมือนครั้งนี้ได้ยกขบวนกันไปประกอบพิธีสุมทองที่วัดดอยแม่ปั๋ง ใช้วิธีการทำแบบโบราณ ซึ่งในขณะที่เททองนั้น หลวงปู่แหวนได้นั่งอธิษฐานจิต เพื่อประจุพลังความศักดิ์สิทธิ์จากกุฏิท่านส่งไปยังบริเวณพิธีโดยผ่านสายสิญจน์ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาได้ฤกษ์ พระครูสันติวรญาณหรือหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ศิษย์ของอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นผู้จุดเทียนชัย และเททองแทนหลวงปู่แหวน เพราะท่านไม่ยอมเททองหล่อรูปตัวท่านเอง จึงมอบให้หลวงพ่อสิมเททองแทน
ในขณะเดียวกัน พระสงฆ์รูปอื่นก็สวดชยันโต และสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรเสร็จแล้ว หลวงพ่อสิมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตามเบ้าหุ่นมงคลวัตถุมงคลทั้งหมด นับว่าการหล่อสร้างรูปเหมือนหลวงปู่แหวนรุ่นนี้ได้ประกอบพิธีกรรมอย่างสมบูรณ์แบบ ครบถ้วนทั้งพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์ ก่อนจะเจาะใต้ฐานบรรจุผงวิเศษ 3 สิ่งเข้าไป ประกอบด้วย 1.ผงไตรมาสของเจ้าคุณนรรัตนฯ ซึ่งได้ปลุกเสกให้ในปี พ.ศ. 1511 2.ผงไตรมาสของหลวงปู่แหวน ซึ่งปลุกเสกในปี พ.ศ. 2516 และ 3.เส้นเกศาของหลวงปู่แหวน
รูปเหมือนของหลวงปู่แหวน เป็นรูปเหมือนนั่งสมาธิเต็มองค์อยู่ในพัทธสีมา ผนังลายโพธิ์ ด้านหลังเบื้องบนเป็นอักษรไทยล้านนา ตามแบบที่หลวงปู่เขียนไว้ มีข้อความว่า “พุทโธ อรหัง” เป็นคาถาของท่าน ส่วนด้านล่างเป็นอักษรไทยกลางว่า “หลวงปู่แหวน สุจิณโณ” จัดสร้างเพียง 5,000 องค์เท่านั้น ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าใช้มากที่สุดรุ่นหนึ่งในบรรดาพระของหลวงปู่แหวน เพราะรูปหล่อหลวงปู่แหวนเท่ากับพระอรหันต์ 2 องค์ รวมกันสร้างคือหลวงปู่แหวนและหลวงพ่อสิม


