posttoday

วัดปากน้ำนำรถเบนซ์โบราณ "สมเด็จช่วง" มอบให้ดีเอสไอ

07 มีนาคม 2559

ทนายความวัดปากน้ำนำรถเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วงมาส่งมอบให้กับดีเอสไอ

ทนายความวัดปากน้ำนำรถเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วงมาส่งมอบให้กับดีเอสไอ

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เวลา 14.40 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ สิทธิกรณ์ ทนายความส่วนตัวพระมหาศาสนมุนี (พระธนกิจ สุภาโว) หรือหลวงพี่แป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เดินทาง ทีมายังดีเอสไอ เพื่อส่งมอบรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพฯ ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ให้แก่ดีเอสไอ โดยมี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฎิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ เป็นผู้รับรถยนต์คันดังกล่าวเอาไว้

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของหลวงพี่แป๊ะมาส่งมอบรถยนต์โบราณคันดังกล่าว ซึ่งการส่งมอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากดีเอสไอเคยบอกว่ารถมีความผิด แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา จึงส่งมอบรถให้ดีเอสไอไปดำเนินการพิสูจน์ว่ารถคันนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ และถ้าผิดกฎหมายก็ให้ไปดำเนินคดีกับผู้ที่ขายรถให้เรา ซึ่งมีนายวิชาญ รัษฐปานะ เป็นผู้ขาย ซึ่งเป็นเจ้าของอู่วิชาญ เพราะเราเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้ต้องหา

นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนทราบข่าวถึงกรณีที่มีการกำชับการตรวจสอบในประเด็นรถยนต์หรูกว่า 6,000 คัน ที่เข้าข่ายลักษณะเช่นเดียวกับเรา ดังนั้น การที่ดีเอสไอดำเนินการอย่างไรกับเรา ขอให้ใช้มาตรฐานเดียวกับรถยนต์ 6,000 คันด้วย และขอให้มีการเปิดเผยชื่อต่อสื่อมวลชนด้วย ว่ารถจำนวน 6,000 คัน ที่อ้างว่าผิดกฎหมายมีรถของใครบ้าง ไม่ใช่เปิดเผยชื่อแต่รถของเราเพียงฝ่ายเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้เมื่อใด นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เราไม่สามารถให้ปากคำได้ เพราะพนักงานสอบสวนไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหากับทางเรา และเราไม่ได้อยู่ในฐานะของผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่เคยแจ้งว่าเราเป็นผู้ต้องหาเลย เพียงแต่เป็นผู้ที่ครอบครองรถ และสันนิษฐานว่ารถคันนี้อาจได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายเท่านั้น ส่วนพนักงานสอบสวนยังไม่มีหนังสือมาถึงว่าเราเป็นผู้ต้องหาอย่างไร แต่เรายินดีให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ

"รถคันนี้สมเด็จช่วงส่งคืนให้ผู้บริจาคแล้ว และได้โอนลอยไปแล้ว และมีรายการการโอนรถมาให้เรียบร้อยแล้ว รถคันดังกล่าวเป็นอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์พิเศษ เหมือนเราไปซื้อรถและมีการเซ็นต์หนังสือโอนลอยมาให้ ก่อนส่งมาให้เรา รถก็เลยมาเป็นกรรมสิทธิ์และอยู่ในความครอบครองของเรา ดังนั้น เราเป็นหนึ่งในผู้ที่บริจาคไปให้ ซึ่งมีหลายคนที่ร่วมกันบริจาค เราจึงเป็นผู้เสียหาย ซึ่งคนที่ขายรถให้เราได้กระทำความผิดอย่างไรเราไม่ทราบ"นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการส่งรถมาในวันนี้ เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ว่ารถคันดังกล่าว ดีเอสไอออกข่าวหลายครั้งแล้วว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงส่งให้ตรวจ ทั้งนี้ ขอให้ชี้แจงออกเป็นหนังสือ อย่าแถลงข่าวว่า และขอให้ชี้แจงให้ชัดเจนว่ารถคันนี้ถูกหรือไม่ถูกกฎหมายอย่างไร ผิดมาตราไหน ข้อไหนอย่างไร และรถคันนี้ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ หรือเป็นผู้ต้องหา อย่าพูดคลุมเคลือว่าเป็นรถของทางพระไปจดประกอบอะไรอย่างนี้ เพราะพระไม่ได้จดประกอบตั้งแต่วันแรกที่ตนเคยออกมาแถลงก่อนหน้านี้ เนื่องจากพระไม่มีความรู้ในเรื่องจดประกอบ เพียงแต่เป็นผู้ซื้อและเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกขายรถให้เท่านั้น

"ช่วยถามทางดีเอสไอด้วยว่ารถหรู 6,000 คัน ทำไมจึงไม่มีการเปิดเผยเหมือนเรา และมีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นผู้ครอบครองรถจำนวนดังกล่าวบ้าง อีกประเด็นที่กังวลคือ รถเรามีมูลค่าเพียง 4 ล้านบาท ไม่ใช่รถหรู เพราะรถหรูมีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จึงอยากให้เรียกว่าเป็นรถโบราณ และไม่ได้ใช้ขับมานานแล้ว เพราะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ จึงอยากถามว่ารถหรูที่ขับอยู่บนท้องถนนทำไมไม่ตามจับกัน มีนัยยะอะไรหรือไม่ที่มาทำเรื่องพระในวันนี้"นายสุรพงษ์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้เป็นตัวแทนการรับมอบรถ ซึ่งจะนำรถไปเก็บรักษาไว้ลานจอดรถชั้น 8 อาคารไปรษณีย์ไทย ถ.แจ้งวัฒนะ ส่วนการดำเนินคดีขณะนี้ดีเอสไอรับไว้เป็นคดีพิเศษ โดยอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักคดีภาษีอากร ซึ่งจะรับไปทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งรถทั้งหมดตามที่ได้รับข้อมูลจากกรมการขนส่งจะส่งเอกสารการครอบครองรถมาให้ดีเอสไอ หลังจากนั้น จะดำเนินการตามที่พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีไปพอสมควรแล้ว

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนการต่อจากนี้ หลังรับรถเบนซ์คันดังกล่าวไว้ จะทำบันทึกให้กับผู้รับมอบอำนาจจากสมเด็จช่วง สำหรับรถคันดังกล่าวอยู่ในการสอบสวน ซึ่งใครถูกหรือผิด ใครทำอย่างไรนั้น กระบวนการขั้นตอนป็นอย่างไรทางดีเอสไอจะดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงทั้งหมด  ซึ่งขั้นตอนตรวจสอบรถทางกายภาพถือว่ายุติแล้ว และวันนี้เพียงแต่รับรถไว้หลังจากส่งมอบรถให้ดีเอสไอ

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างการประสานเพื่อขอเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วงในฐานะผู้ครอบครองรถ  โดยตนได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังวัดปากน้ำฯจะขอเข้าสอบปากคำภายในวันที่ 7 – 11 มี.ค.นี้  แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ

ส่วนที่มีข้อกังวลหากสมเด็จช่วงไม่สะดวกมาตามเวลาที่กำหนดจะทำให้การตรวจสอบล่าช้าไปอีกหรือไม่ พ.ต.อ.ไพสิฐ ระบุว่า ขอให้รอการติดต่อกลับตามเวลาที่กำหนดก่อน จากนั้นจะพิจารณาอีกครั้ง 

วัดปากน้ำนำรถเบนซ์โบราณ "สมเด็จช่วง" มอบให้ดีเอสไอ

 

วัดปากน้ำนำรถเบนซ์โบราณ "สมเด็จช่วง" มอบให้ดีเอสไอ

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68