"เซเว่น"แจ้งตร.จับทันทีหากถูกขู่ขายเหล้าวันพระใหญ่

เซเว่นกำชับพนักงานร้านแจ้งตำรวจทันทีหากถูกข่มขู่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันมาฆบูชา ห่วงต่างชาติไม่เข้าใจงดจำหน่ายสุราวันสำคัญทางศาสนา

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า การลดละเลิกของมึนเมาถือเป็นการสร้างบุญสร้างกุศล ทางเซเว่นยินดีร่วมมือกับทุกฝ่ายทำตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามจำหน่ายในวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งทุกปีเราเข้มงวดบังคับใช้อย่างจริงจัง คือก่อนจะถึงวันมาฆบูชา1 วัน จะมีการสื่อสารออนไลน์และทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังเซเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงทุกสาขาต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามขายให้ชัดเจน

ขณะเดียวกันหากมีเหตุการณ์ผู้บริโภคข่มขู่หรือจะทำร้ายร่างกายเพื่อต้องการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  เราก็มีการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเกิดเหตุก็จะประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อเข้าไปดูแลได้ทันทีภายใน10 นาที โดยพนักงานทุกคนมีวิธีการแจ้งและมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกันที่ใช้กับกรณีอื่นๆอยู่แล้ว

“ทางเรายังห่วงเกรงว่าพนักงานของเราจะถูกทำร้ายจึงอยากให้เจ้าหน้าที่สื่อสารไปยังลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างชาติด้วย เนื่องจากมีหลายกรณีที่ลูกค้าไม่เข้าใจในเรื่องกฎหมายห้ามขายในวันสำคัญทางศาสนา หรือตามเวลาที่กฎหมายกำหนด  เกิดปากเสียงโวยวายภายในร้านทำให้พนักงานหวาดกลัว ซึ่งเซเว่นหลายสาขาได้ทำหนังสือร้องเรียนเข้ามาที่สำนักงานใหญ่เป็นจำนวนมาก รวมถึงตามต่างจังหวัดด้วย จึงอยากฝากให้ทุกคนยึดกฎหมาย ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์ทั้งนี้ขอขอเชิญชวนผู้ประกอบการ ผู้ค้าทั้งหลายงดจำหน่ายสุราในวันมาฆบูชาที่จะถึงนี้  ขอให้ทุกร้านร่วมมือกัน เพื่อสร้างสังคมให้น่าอยู่ เพราะมาตรการนี้ถือว่าได้ผลและเป็นสิ่งดี  ช่วยลดจำนวนการดื่ม ลดนักดื่มหน้าใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชน ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ”นายสุวิทย์ กล่าว

เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 5 มีเนื้อหาให้ยกเลิกประกาศฉบับเก่าและกำหนดวันห้ามขายสุราในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษาและวันออกพรรษา โดยยกเว้นเฉพาะร้านค้าปลอดอากรในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติเท่านั้น กฎหมายฉบับนี้มีข้อแตกต่างจากฉบับเก่าคือข้อยกเว้นในส่วนของโรงแรมได้ถูกยกเลิกไป โดยในปีนี้จะเริ่มตั้งแต่คืนวันที่21ก.พ.หลังเวลา 24.00 น. ไปจนถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 22 ก.พ.สำหรับผู้ที่ผ่าฝืน จำคุกไม่เกิน6เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“อยากให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องร้านที่ฝ่าฝืนทำผิดกฎหมาย ร้องเรียน  แจ้งเหตุได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่และสุรา กรมควบคุมโรคโทร.02-590-3032 ที่ผ่านมาพบว่าร้านอาหารผับบาร์ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือติดป้ายบอกลูกค้าไว้ชัดเจน มีเพียงผับบาร์บางแห่ง รวมถึงร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม ร้านค้าโชว์ห่วยตามชุมชน ที่ยังแอบขายทั้งนี้ยังพบ ร้านสะดวกซื้อบางรายถูกข่มขู่จากลูกค้าที่มีอาการมึนเมา จึงจำใจต้องขายให้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง  อย่างไรก็ตามปีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจควรให้ความสำคัญและขอแนะนำให้ร้านค้า สถานประกอบการ รวมถึงโรงแรมติดป้ายบอกไว้หน้าร้านให้ชัดเจนเพื่อแจ้งกับลูกค้าให้เข้าใจ”เภสัชกรสงกรานต์ กล่าว

ทั้งนี้จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าเด็กไทยเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อายุน้อยสุด7ปี และนักดื่มทั้งหญิงและชายเฉลี่ยอายุ14ปี ซึ่งการศึกษาพบว่าเด็กที่ดื่มตั้งแต่เล็กๆ มีโอกาสที่จะติดการดื่มสุราไปชั่วชีวิต ขณะที่ยอดนักดื่มหน้าใหม่พบมี 250,000 คนต่อปี