ตรวจเข้มชายแดน-ประสานกัมพูชาล่าตัวหนุ่มสเปนผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ
เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มชายแดน พร้อมประสานกัมพูชา ติดตามหนุ่มสเปนผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ หลังพบจอดจักรยานยนต์ทิ้งใกล้ชายแดน
เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มชายแดน พร้อมประสานกัมพูชา ติดตามหนุ่มสเปนผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ หลังพบจอดจักรยานยนต์ทิ้งใกล้ชายแดน
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้ตรวจตราบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์อย่างเข้มงวด หลังจากที่เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เจ้าหน้าที่พบจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น พีซีเอ็ก สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของ นายอาร์ตูร์ หรือ อาเธอร์ เซการ์รา ปริ๊นเซป อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ นายเดวิด แบร์นัต นักธุรกิจชาวสเปน นำมาจอดทิ้งไว้บริเวณป่า ใกล้กับตลาดการค้าชายแดนสมบัติ ต.ด่าน อ.กาบเชิง ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาได้พยายามหนีข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจและ ด่านตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาให้ช่วยตรวจสอบและติดตามผู้ต้องหารายนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ยืนยันว่านายอาเธอร์ ไม่ได้ผ่านออกทางช่องปกติ ซึ่งอาจจะใช้เส้นทางธรรมชาติ ใกล้กับตลาดชายแดนหลบหนีออกไปนอกประเทศก็เป็นได้ โดยจอดรถทิ้งไว้ ซึ่งขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ลงพื้นที่ประสานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว
ขณะที่ น.ส.ปริศนา แสนอุบล อายุ 22 ปี เพื่อนสาวคนสนิทของนายอาเธอร์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากพบว่าได้เดินทางไปเที่ยวร้านคาราโอเกะใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.นั้น ได้ให้การว่า ไปทำงานที่ กทม.และคบหากับนายอาเธอร์ มากว่า 6 เดือนแล้ว โดยพักคนละแห่ง โดยตนเช่าโรงแรมอยู่ ส่วนนายอาเธอร์ พักที่อพาร์ทเม้นท์ และก็ไม่ทราบเรื่องว่านายอาเธอร์เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งตนไม่รู้ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่สังเกตเห็นเมื่อเดือนก่อนว่า นายอาเธอร์มีความเครียด และหลังจากไปเที่ยวร้านคาราโอเกะในวันที่ 5 ก.พ. นายอาเธอร์ก็ขี่จักรยานยนต์หายไป