posttoday

หลวงพ่อทอง ตอบปัญหา คำว่า หนอ

31 มกราคม 2559

หลักวิชาของพระธรรมมังคลาจารย์ ตอนที่แล้วว่าด้วยหลักธรรมที่สอดรับกับพอง-ยุบ แบบง่ายๆ

โดย...90 ปี พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อทอง)

หลักวิชาของพระธรรมมังคลาจารย์ ตอนที่แล้วว่าด้วยหลักธรรมที่สอดรับกับพอง-ยุบ แบบง่ายๆ จบตอนที่ว่าด้วย (9) โพชฌงค์ 7 เมื่อปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 แล้วเป็นสติ จนถึงเมื่อสมาธิเกิด ความวางเฉยก็เกิด เป็นอุเบกขา ตอนต่อจากนี้ หลวงพ่อตอบข้อข้องใจว่า ทำไม ต้องใช้คำว่า หนอ ต่อท้าย เชิญหาความรู้ได้ครับ

1.3 หนอ

ปัญหาคำว่า “หนอ” ที่ใช้ต่อท้ายพอง-ยุบ นั้น มีการถกเถียงกันมากในสมัยเมื่อเริ่มมีการเผยแผ่วิธีวิปัสสนากรรมฐานแนวนี้ เนื่องจากการเจริญวิปัสสนากรรมฐานในเมืองไทยมีอยู่ด้วยกันหลายลักษณะ บ้างก็ภาวนาว่า พุทโธ บ้างก็ว่า อะระหัง บ้างก็ว่า อิติปิโส ภะคะวา พระธรรมมังคลาจารย์ วิ.(2554:25-30) ตอบปัญหาเหล่านี้ได้ชัดเจนแล้วในปัจจุบันคำว่า “หนอ”

ถาม เวลาภาวนาจะไม่ว่าหนอต่อท้าย ภาวนาเพียง พอง-ยุบ เท่านั้นได้หรือไม่ เพราเหตุใด

ตอบ “...ได้แต่ไม่ดี เพราะเหตุว่าระยะสั้นเกินไป สมาธิมีกำลังอ่อน รูปนามอ่อนไม่ปรากฏชัด ได้ผลช้า จะภาวนาเฉยๆ โดยไม่เอาหนอมาต่อท้ายก็ได้อยู่ ข้อนี้ไม่สำคัญมากมายนัก สำคัญอยู่ที่ผลการปฏิบัติ ถ้าเราเอาหนอไปต่อท้าย ได้สมาธิเกิดผลดีก็ใช้ได้ทั้งนั้น ถูกทั้งนั้น ไม่น่าจะสงสัยและเถียงกันให้เสียเวลาเลย ทางที่ดี ถ้าใครสงสัยรีบลงมือพิสูจน์ทันที

อย่าดีแต่พูดเฉยๆ ถ้าเฉยๆ ไม่ลองชิมดู ก็ไม่รู้รส รสไม่ปรากฏแก่ผู้ไม่ชิมไม่รับประทาน มามัวถกเถียงกันว่าอย่างนั้นทำผิด อย่างนั้นทำถูก อย่างนั้นไม่ดี อย่างนั้นอร่อย อย่างนั้นไม่อร่อย ปล่อยให้ตายกันทั้งสองฝ่าย ก็ไม่มีโอกาสจะรู้เลย

ถาม หนออยู่คนละแห่ง แต่ทำไมจึงเอามาต่อกันได้

ตอบ ทางธรรม คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามี 84,000 พระธรรมขันธ์ เราเลือกเอาบทไหน ตอนไหน ข้อไหนมาปฏิบัติได้ ขอให้เกิดผลแก่การปฏิบัติก็พอแล้ว สำคัญอยู่ที่ผลของการปฏิบัติเท่านั้น คำว่าหนอเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้สภาวธรรมชัดเจนขึ้น

ถาม เราจะภาวนา ขึ้น-ลง ได้ไหม

ตอบ ได้ไม่ขัดข้องเลย ตามอัธยาศัยของผู้ปฏิบัติ

ถาม เราจะภาวนา โป่ง-แฟบ ได้ไหม

ตอบ ได้ สุดแท้แต่จะชอบ โบราณท่านว่า “ลางเนื้อชอบลางยา”

ถาม จะภาวนาว่า รู้หนอ รู้หนอ ได้ไหม

ตอบ ได้ ข้อสำคัญนั้น ใครจะภาวนาว่าอย่างไรก็ได้ แต่ต้องครบองค์ 3 คือ อาตาปี มีความเพียรเผากิเลสให้ร้อนทั่ว สติมา มีสติไม่เผลอจากรูปนาม สัมปชาโน รู้รูปนามอยู่ทุกขณะ

ถาม สำนักปฏิบัติธรรมในเมืองไทยมีมาก บางสำนักก็สอนให้ต่างกัน ใครถูกใครผิด ขอให้วินิจฉัยดู คือ เวลาภาวนาบางสำนักสอนว่า “พุทโธ” ก็มี “อะระหัง” ก็มี “สัมพุทโธ” ก็มี “อิติปิโส ภะคะวา” ก็มี หายใจเข้าว่า “พุท” หายใจออกว่า “โธ” ก็มี หายใจออกว่า “พุทโธ” ก็มี “ยุบหนอ พองหนอ” ก็มี “นั่งหนอ ถูกหนอ” ก็มั “รู้หนอ” ก็มี ให้กำหนดรู้เฉยๆ ไม่ต้องภาวนาก็มี “กระทบหนอ” ก็มี “ถูกหนอ” ก็มี คือลมถูกประสาทจมูก และ “นั่งหนอ” ก็มี

ตอบ ทั้ง 13 สำนักนี้ ถูกต้องด้วยกันทั้งนั้น แต่ถูกคนละแบบ คือ ข้อที่ 1-6 ถูกแบบสมถกรรมฐาน คือ 6 ข้อเบื้องต้นเป็นอารมณ์ของสมถกรรมฐาน 7 ข้อเบื้องท้ายเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา เรียกว่า ทางหนึ่งเป็นสมถะ อีกทางหนึ่งเป็นวิปัสสนา เจริญสมถะก็ได้บุญ เจริญวิปัสสนาก็ได้บุญ ขอให้เจริญไปเถอะ ดีกว่าไม่ได้เจริญเป็นแน่ๆ โบราณท่านสอนว่า “แม้เจริญเพียงชั่วช้างกระดิกหู ชั่วงูแลบลิ้น ชั่วไก่ปรบปีก” ก็ยังดี เพราะถ้าไม่สำเร็จมรรค ผล นิพพาน ในชาตินี้ ก็จะเป็นอุปนิสัยปัจจัยในชาติต่างๆ ต่อไปอีก เช่น พระจูฬปันถกเป็นตัวอย่าง

ถาม บางคนสงสัยในวิธีเดินจงกรม แต่ละสำนักแต่ละแห่งสอนไม่เหมือนกัน เช่น บางสำนักสอนว่า “ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ” ก็มี “ก้าวหนอ” ก็มี “ก้าวเป็นรูป รู้เป็นนาม” ก็มี “ย่างหนอ” ก็มี “ยก ย่าง เหยียบ” ก็มี อยากทราบว่าทั้ง 5 สำนัก นี้ สำนักไหนถูก สำนักไหนผิด

ตอบ ถูกทุกสำนัก และผิดทุกสำนัก

ถาม เพราะเหตุไร จึงตอบเช่นนั้น ขอทราบเหตุผล

ตอบ ที่ตอบเช่นนั้น เพราะเหตุผลดังนี้ คือ

1.ที่ว่าถูกทุกสำนักนั้น เพราะว่าการเจริญวิปัสสนากรรมฐานต้องกำหนดตามสติปัฏฐาน 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม ใครจะภาวนาว่าอย่างไรก็ตาม ขอแต่ให้ใจอยู่กับสติปัฏฐาน 4 และให้มีองค์ 3 คือ ความเพียร สติ สัมปชัญญะ เป็นอันถูกต้องด้วยกันทั้งนั้น

2.ที่ว่าผิดทุกสำนักนั้น เพราะจะเป็นสำนักไหนๆ ก็ตาม ถ้าภาวนาเว้นจากสติปัฏฐาน 4 และองค์ 3 คือ ความเพียร สติ สัมปชัญญะ ก็ผิดทั้งนั้น...”

“...การเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั้น จะมีหนอต่อท้ายหรือไม่มีก็ได้ ข้อสำคัญอยู่ที่ผล เมื่อเราใส่หนอแล้วได้ผลดีกว่าไม่ใส่ เราก็ควรใส่ ถ้าใส่แล้วไม่ได้ผลดี เราก็ตัดออกได้ ทั้งนี้แล้วแต่อัธยาศัย ขอให้ผู้ปฏิบัติทดลองเอาเองเถิด...”

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่า ธปท. ห่วงบาทแข็งเร็ว สั่งตรวจเข้มทำธุรกรรมซื้อขายดอลลาร์