posttoday

อนุรักษ์พิธีศพไหหลำ แห่งเดียวที่เมืองตรัง

24 มกราคม 2559

ในปัจจุบัน การแห่ศพแบบประเพณีจีน โดยเฉพาะการแบกโลงไม้ หรือที่เรียกว่า “โลงหัวหมู”

โดย...เมธี เมืองแก้ว

ในปัจจุบัน การแห่ศพแบบประเพณีจีน โดยเฉพาะการแบกโลงไม้ หรือที่เรียกว่า “โลงหัวหมู” นั้นแทบจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว แต่สำหรับบ้าน “หินคอกควาย” หมู่ที่ 3 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เป็นหมู่บ้านที่มีอายุเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 300 ปี ซึ่งถือเป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนไหหลำที่ใหญ่ที่สุดชุมชนหนึ่งของ จ.ตรัง พวกเขายังคงอนุรักษ์พิธีศพแบบไหหลำดั้งเดิมเอาไว้จนถึงทุกวันนี้

การอนุรักษ์ประเพณีเอาไว้ใช่เพียงแค่การทำตามแบบแผนธรรม เนียมโบราณ แต่ยังมีความละเอียดอ่อน สะท้อนถึงการตระหนักถึงและเคารพต่อภูมิปัญญาเก่าแก่ ขั้นตอนพิธีการที่มีความหมาย นับเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ตายและส่งผู้ตายไปยังภพภูมิที่ดี ส่วนบุตรหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะมีความเจริญรุ่งเรือง

“เจี้ยบ ทองเอียบ” หรือ “ก๋งไว” แกนนำชุมชนแห่งนี้ อธิบายว่า ประเพณีวัฒนธรรมการจัดงานศพของชาวจีนที่นี่ จะเริ่มตั้งแต่การจัดทำหีบศพแบบจีน หรือโลงจีน ด้วยการนำไม้ซุงทั้งท่อนมาขุดเป็นหลุมให้ใส่ศพได้ ซึ่งนิยมเรียกกันว่า “โลงหัวหมู” และขนาดกว้างความยาวต้องตกตัวเลขมงคลตามสายวัดของจีน พร้อมกับมีการแต่งตัวผู้ตาย รูปผู้ตาย โลงศพ และใส่ทรัพย์สินประจำตัวผู้ตายลงไปในโลงศพ

อนุรักษ์พิธีศพไหหลำ แห่งเดียวที่เมืองตรัง

 

ธรรมเนียมไหหลำมักจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านก่อนนำไปฝังที่สุสาน ซึ่งในการตั้งศพไว้ที่บ้าน บางคราวต้องปิดถนนเพื่อใช้พื้นที่วางโต๊ะ เก้าอี้ กางเต็นท์ รับรองแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพ ส่วนการเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาร่วมในงานก็เป็นเรื่องใหญ่ ที่เจ้าภาพถือว่าจะต้องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม

ขณะเดียวกัน ยังมีการจัดพิธีไหว้ศพ ในวันปลงศพ หรือวันฝังศพ โดยจะเรียงลำดับตั้งแต่ลูกชาย ลูกสาว ลูกสะใภ้ หลานใน หลานนอก ลูกบุญธรรม หรือลูกยก พี่น้องผู้ตาย ไปจนถึงหลานๆ แต่ที่ยังคงเป็นจุดเด่นและหาชมได้ยากแล้วในปัจจุบันคือ พิธีแห่ศพชาวไทยเชื้อสายจีนไหหลำ ซึ่งจะให้ลูกหลาน 32 คน ช่วยกันหามไม้คานแบกโลงศพ ที่ทำด้วย “ไม้ทังหน” ไม้พื้นเมืองภาคใต้ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา แต่เหนียวและคงทนแข็งแรงมาก รวม 31 ท่อน โดยไม้คานแบกโลงศพแต่ละท่อน จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 5-15 ซม. ซึ่งไม้คานที่เบาที่สุดจะมีขนาดยาว 1.20 เมตร และหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนไม้คานที่หนักที่สุดจะมีเพียงท่อนเดียว ขนาดยาว 8 เมตร และหนักถึง 50 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบางงานจุดที่ตั้งศพกับสุสานมีระยะทางไกลมาก ขณะที่ทั้งโลงศพหัวหมูและไม้คานแบกโลงศพมีน้ำหนักรวมกันประมาณ 500 กิโลกรัม จึงต้องใช้ลูกหลานช่วยกันหามถึง 3 ผลัด หรือ 96 คน ซึ่งจำนวนคนที่มาช่วยหามโลงศพ จะบ่งบอกถึงบารมีและคุณความดีของผู้ตายตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งมีคนมากก็แสดงว่าผู้ตายอาจช่วยเหลือคนไว้มากหรือมีบริวารมาก

อนุรักษ์พิธีศพไหหลำ แห่งเดียวที่เมืองตรัง

 

ร.อ.หญิง สิรีลัคน์ รัตนประสิทธิ์ ลูกหลานของชุมชนแห่งนี้ บอกว่า ขบวนแห่ศพไปยังสุสาน ลูกชายคนโตหรือหลานชายคนโต จะเป็นผู้ถือรูปของผู้ตาย ส่วนลูกคนอื่นจะโปรยกระดาษเงินกระดาษทอง เป็นใบเบิกทางให้ผู้ตายเดินทาง ส่วนพิธีฝังศพ จะเริ่มต้นด้วยการไหว้เจ้าที่ แล้วจึงนำศพลงหลุม จากนั้นลูกหลานจะช่วยกันนำดินใส่ในหลุมและกลบให้เรียบร้อย แล้วจึงทำพิธีเจิมภาพถ่ายของผู้ตายเพื่อนำกลับไปเซ่นไหว้พร้อมกับกระถางธูป

อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งของหลุมศพ หรือฮวงจุ้ย ชุมชน “บ้านหินคอกควาย” จะให้ความสำคัญมาก เพราะเชื่อว่าถ้าเลือกที่ตั้งไม่ดี จะส่งผลให้ลูกหลานทำมาค้าขายไม่เจริญ ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนไหหลำได้ร่วมกันทำอย่างเต็มที่ตลอดการจัดงานศพ ไม่เพียงเป็นการแสดงออกถึงความรักใคร่สามัคคีกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างให้เกิดความเป็นสิริมงคลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์สืบไป

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68