เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (30)
ร.ท.อรรถพล ศรีเปารยะ จบจากโรงเรียน ตชด. กลุ่ม 5 ประชารัฐ จ.สตูล ปัจจุบันปฏิบัติงานในตำแหน่ง
โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย
ร.ท.อรรถพล ศรีเปารยะ จบจากโรงเรียน ตชด. กลุ่ม 5 ประชารัฐ จ.สตูล ปัจจุบันปฏิบัติงานในตำแหน่งนายทหารเครื่องส่ง ผทน.วส.912 สนภ.4นทพ. เล่าว่า “รู้สึกดีใจมากและสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้พระราชทานโอกาสให้ศึกษาจนจบปริญญาตรี มีงานทำ มีเงินพอที่จะเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ จากเด็กชนบทที่ทางบ้านมีฐานะยากจน ไม่รู้จะได้ศึกษาเล่าเรียนถึงระดับใด ถ้าไม่ได้เป็นนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ตอนนี้ข้าพเจ้าถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตในระดับหนึ่ง”
ส.ต.อ.หญิง ใหนย่าน ยั่งยืนวณิชกุล (แซ่ฟุ้ง) ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ในปี 2536 คุรุทายาท รุ่นที่ 2 ศิษย์เก่าโรงเรียน ตชด. อาชีวศึกษาเชียงราย-พะเยา เล่าว่า “ตอนเด็กพ่อพาไปฝากไว้กับครูที่โรงเรียน มีความสุขที่ได้มาเรียน ก่อนจะมาเรียนแม่จะนำน้องมัดติดหลังไปด้วยทุกวัน จำได้ว่าวันหนึ่งครูนำเมล็ดถั่วเหลืองมาให้และบอกว่าจะสอนให้ทำนม นักเรียนทุกคนมองดูด้วยความงง บางคนก็หยิบมาลูบๆ ดู นึกไม่ออกว่าถั่วเหลืองจะกลายเป็นนมได้อย่างไร จนกระทั่งครูสอนให้ทำและบอกว่านี่คือน้ำนมถั่วเหลือง ตั้งแต่วันนั้นก็ได้ดื่มนมถั่วเหลืองทุกเช้า ด้วยพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้เยาวชนในหมู่บ้านหลายคนได้รับโอกาส ความใฝ่ฝันเป็นจริง มีหน้าที่การงานที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถช่วยเหลือคนอื่น และช่วยพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง ส่งผลให้สภาพความเป็นอยู่ในหมู่บ้านได้รับการพัฒนา ผู้คนเริ่มเห็นความสำคัญของการศึกษาว่าสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริง”
ส.ต.ต.ศิวะ สุใจ๋ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนรับปาปอร์ต จบการศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพที่วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ สามารถสอบเข้ามาเป็นครูคุรุทายาทในรุ่นล่าสุดที่ผ่านมา ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงของการรอปรับพื้นฐานการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งใจว่า “ถ้าข้าพเจ้าเลือกเกิดได้ ข้าพเจ้าก็จะเลือกเกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้ แผ่นดินที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทรงงานหนัก เพียงเพื่อพสกนิกรของพระองค์ได้อยู่ดีกินดี”
ส.ต.อ.หญิง ทิพกร แซ่ลี จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการสอนวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันทำหน้าที่ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียน ตชด.ทอท.เฉลิมพระเกียรติฯ เล่าว่า “ประทับใจไม่รู้ลืมก็คือ โครงการอาหารกลางวันทำให้ท้องอิ่ม เมื่อคนเราท้องอิ่มก็จะมีสมาธิในการร่วมกิจกรรมต่างๆ และเป็นโครงการที่นักเรียน ตชด.ชอบมากโครงการหนึ่ง เพราะว่านักเรียน ตชด.ส่วนมากจะเป็นชนเผ่า ซึ่งฐานะทางบ้านยากจน ผู้ปกครองประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวน จึงไม่มีเวลาในการดูแลบุตรเท่าที่ควร และอาหารการกินของชนเผ่าก็ไม่ได้เน้นว่าต้องครบ 5 หมู่ หรือมีคุณค่าทางโภชนาการ เพียงแต่หวังให้ท้องอิ่มและมีแรงในการทำกิจกรรมต่อเท่านั้น และอีกโครงการหนึ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมและมีคุณค่ามาก คือ โครงการนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ทำให้สามารถศึกษาต่อจนถึงระดับปริญญาตรีได้”
ส.ต.อ.หญิง อรนุช จิตตาคำ เชื้อชาติจีน สัญชาติไทย ศาสนาคริสต์ เล่าว่า มีพี่น้อง 5 คน ตนเองเป็นบุตรคนที่ 5 ตั้งแต่เริ่มจำความได้ เคยถามพ่อแม่ว่า ทำไมเราต้องมาอยู่บนดอยติดชายแดน ไม่กลัวพม่ารบกันหรือ ได้รับคำตอบว่า มาอยู่ที่นี่ก็เพราะหนีการรบมานั่นแหละ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทหารจีนคณะชาติ หรือกองพล 93 ของนายพลหลิวเหยี่ยนหลิง ที่เมืองเชียงลับ ถูกทหารผสม จีน-พม่า บุกเข้าทำลาย ทหารจีนคณะชาติที่อยู่ในบริเวณของรัฐฉานไม่มีฐานที่มั่น จึงได้อพยพเข้ามาสู่ประเทศไทยในสมัยนั้น ครอบครัวลำบากสุดๆ เพราะได้มาแต่ตัวกับหัวใจจริงๆ (เสื่อผืน หมอนใบ ยังไม่มี) มาถึงเมืองไทยหาเช้ากินค่ำ ครอบครัวตกอยู่ในสภาพเช่นว่านี้หลายปี พอรู้ข่าวว่ามีโรงเรียน ตชด.มาตั้งอยู่ที่บ้านห้วยลึก หมู่บ้านใกล้เคียง พ่อแม่ดีใจมาก เลยเอาลูกทั้งหมดไปเรียนที่โรงเรียน ตชด. ตนเองได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียน ตชด.เฉลิมพระเกียรติฯ และสอบทุนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ได้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว พอจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ไปศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่วิทยาลัยการอาชีพฝาง ต่อมาประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโอกาสศึกษาต่อ ระหว่างนั้นก็เข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ เป็นล่ามแปลภาษาไทย-จีน ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สาขานิติศาสตร์ ปี 3 จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้ตนเองเข้ามารับราชการได้ก็คือ วันหนึ่งมีโทรศัพท์จากครู ตชด. ว่ามีโครงการของสมเด็จพระเทพรัตน์เปิดรับศิษย์เก่าที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียน ตชด. และจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถสอบเข้าเป็นตำรวจได้ แต่ต้องทำหน้าที่ครูในโรงเรียน ตชด.ในบ้านเกิดของตน ตนเองสอบติดเป็นคุรุทายาทรุ่นที่ 4 ปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียน ตชด.เฉลิมพระเกียรติฯ คิดว่าเป็นอาชีพเดียวที่สามารถสวมหมวกหลายใบ ทั้งครู ตำรวจ และภารโรง ทุกอย่างรวมอยู่ในนี้หมด ทั้งสนุกสนาน เฮฮา ทุกข์ สุข เครียด ว่ากันไป เป็นอาชีพที่มีเกียรติสูง สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการเข้ามาเป็นครู ตชด. ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ถ้าเทียบกับตำราก็คงจะเป็นตำราเล่มที่แพงที่สุด นั่นก็คือความเสียสละของครู ตชด. สิ่งที่อยู่ในใจเสมอก็คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พอนึกถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ ทำให้มีแรงบันดาลใจในการปฏิบัติงานต่อไป
ปณตรัตน์ คำสุข จบจากโรงเรียน ตชด.บ้านหนองมะแซว จ.อำนาจเจริญ ปัจจุบันปฏิบัติงานในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์การแพทย์เซลล์วิทยา โรงพยาบาลค้อวัง เล่าว่า “รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตที่ได้เป็นนักเรียนในพระราชานุเคราะห์และซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จะนำความรู้ความสามารถที่มีไปใช้ประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ในอนาคตอยากช่วยเหลืองานของโครงการโดยไม่หวังผลตอบแน เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์”
นฤมล นิลสาคู จบจากโรงเรียน ตชด. บ้านโคกน้อย จ.สระแก้ว กำลังศึกษา MBA Marketing มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันปฏิบัติงานในตำแหน่ง Data Analysis บริษัท เว็ทอินเตอร์บิสสิเนส เล่าว่า “เป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบมิได้ หากไม่มีทุนพระราชทานของพระองค์ ข้าพเจ้าคงไม่มีวันนี้ อนาคตอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง และสามารถใช้ความรู้ที่มีพัฒนาตนเองและผู้อื่น พร้อมทั้งเดินตามรอยพระราชกระแส คือ การให้โอกาสผู้อื่นทุกเมื่อที่มีโอกาส”
พยอม ขันธิวัตร ปัจจุบันปฏิบัติงานในตำแหน่งครู โรงเรียนบ้านดงนา จ.อุบลราชธานี เล่าว่า “มีวันนี้ได้ก็เพราะได้รับพระราชทานทุนการศึกษา จนสำเร็จการศึกษาและจะนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน สังคม ต่อไป ตั้งใจทำงานและศึกษาหาความรู้ให้เพิ่มมากขึ้น ยินดีที่จะรับใช้งานในโครงการของพระองค์ทุกอย่าง”
บุญมี สมคำ จบจากโรงเรียน ตชด.เจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 3 จ.เชียงราย ปัจจุบันเป็นเจ้าของกิจการ หจก.หมื่นศิริดีเวล๊อปเมนต์ เล่าว่า “ทุกอย่างที่มีวันนี้ก็เพราะมีทุนของพระองค์ให้เล่าเรียนจนสำเร็จการศึกษา เมื่อเราแข็งแรงพอแล้ว เราก็จะช่วยให้คนอื่นแข็งแรงด้วย ตั้งใจยินดีจะรับใช้งานในโครงการของพระองค์ทุกอย่าง”
นอกจากพระราชทานทุนการศึกษาในประเทศแล้ว ยังทรงพระเมตตาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนการศึกษาต่อต่างประเทศที่สาธารณรัฐอินเดียและสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
ดังเช่น บุษรา คงเพชร จบจากโรงเรียน ตชด.สันติราษฎร์ประชาบำรุง กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนปิยชาติพัฒนาฯ “ขณะกำลังศึกษาชั้น ป.6 รู้สึกเครียดมาก หนทางที่จะศึกษาต่อมีน้อยมาก จนสมัครเข้าเป็นนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ได้รับทุนให้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ณ ประเทศอินเดีย เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต เหมือนได้ชีวิตใหม่ จากเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้ชะตาชีวิตข้างหน้าจะเป็นยังไง ได้มีกำลังใจที่จะสู้ อยากทำงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร อยากตอบแทนพระองค์ท่านที่มีพระกรุณาธิคุณแก่หนูและนักเรียนที่ยากไร้ทุกคน”
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีพระกรุณาไม่เพียงแต่ที่มีต่อบุคคลเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกนับหมื่นนับแสนรายที่ไม่ได้เอ่ยนาม ซึ่งได้รับพระกรุณาธิคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระกรุณาธิคุณอเนกอนันต์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ต่อสังคม และประเทศชาติโดยส่วนรวมด้วย


