สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ พระเจ้าแผ่นดินคู่แฝดในสมัย ร.4
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญร่วมพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดย...ส.สต
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญร่วมพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และชมการแสดงปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า ครั้งที่ 14 ในวันที่ 7 ม.ค. 2559 ณ ลานพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงละครแห่งชาติ
ด้วยในวันที่ 7 ม.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
กรมศิลปากรร่วมกับชมรมกองทุนพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย ณ พระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงละครแห่งชาติ โดยจะมีพิธีวางพวงมาลาสักการะสังเวย ในวันที่ 7 ม.ค. 2559 เวลา 08.00 น. และตั้งแต่เวลา 16.00 น. จะจัดให้มีการบรรเลงปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า ครั้งที่ 14 ประกอบด้วย การบรรเลงเพลงโหมโรงเย็น (เพลงเรื่อง) โดย วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การขับเสภาอาศิรวาท พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย นฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ และต่อด้วยการแสดงรำอาศิรวาทราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชุด “มหกรรมเภรี แซ่ซ้องร้องสดุดี ภัทรมหาราชา” การบรรเลงและขับร้องเพลงภัทรมหาราช เถา ของกลุ่มดุริยางค์ไทย สำนักการสังคีต การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด “วานรพงศ์ องค์พระราม”
การแสดงชุด ฟ้อนแคนคำหอม การแสดงชุด ขุนแผนพานางวันทองหนี ประกอบการบรรเลงและขับร้องเพลงเชิดจีน จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร และการบรรเลงและขับร้องวงปี่พาทย์เสภา ของวงดุริยางค์สี่เหล่าทัพ และสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงประสูติเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 4 ก.ย. 2351 ณ พระราชวังเดิม คลองบางกอกใหญ่
ทรงได้รับพระบวรราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (พระมหาอุปราช) หรือที่ออกพระนามกันว่า “วังหน้า” มีพระเกียรติยศเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ที่ 2 เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค. 2394 เมื่อมีพระชนมพรรษาได้ 43 พรรษา
พระอัจฉริยภาพที่เด่นๆ จนสามารถเรียกว่าเป็นบุคคลหัวก้าวหน้ารุ่นแรกๆ ของไทยก็ได้ เช่น ทรงสามารถด้านภาษาอังกฤษทั้งการทรงพระอักษรและสนทนา ทรงสนพระทัยในวิชาทหารเรือ จนกระทั่งทรงต่อเรือรบ สามารถนำไปอวดธงสยามในน่านน้ำต่างประเทศได้ จึงมักทรงเครื่องแบบนายทหารเรือเสมอ และอาจถือได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้บัญชาการทหารเรือพระองค์แรกก็ได้
หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว 10 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ม.ค. 2408 พระชนมพรรษา 58 พรรษา ทรงอยู่ในบวรราชสมบัติทั้งสิ้น 15 พรรษา


