ต้องชี้ข้อดี ของการไม่โกงด้วย
ในการจัดการกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น การนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้สังคมเห็นถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ยิ่งสาวไปจนถึงตัวการใหญ่ที่มีตำแหน่งหน้าที่สูงและมีหน้ามีตาในสังคมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสาธารณชนมากขึ้นเท่านั้นว่ามีการดำเนินการเพื่อเอาผิดกับคนโกงอย่างจริงจังแต่อย่างไรก็ตาม แม้การจับปลาใหญ่จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่การทำโทษคนผิดเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้อย่างเป็นระบบและครบวงจร การแสดงให้เห็นว่าการไม่โกงจะก่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กรธุรกิจอย่างไรถือเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะจะช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนถอยห่างออกจากวงจรการคอร์รัปชั่น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการโกงในฟากของอุปทานอย่างยั่งยืน
ในการจัดการกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น การนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้สังคมเห็นถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ยิ่งสาวไปจนถึงตัวการใหญ่ที่มีตำแหน่งหน้าที่สูงและมีหน้ามีตาในสังคมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสาธารณชนมากขึ้นเท่านั้นว่ามีการดำเนินการเพื่อเอาผิดกับคนโกงอย่างจริงจังแต่อย่างไรก็ตาม แม้การจับปลาใหญ่จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่การทำโทษคนผิดเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้อย่างเป็นระบบและครบวงจร การแสดงให้เห็นว่าการไม่โกงจะก่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กรธุรกิจอย่างไรถือเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะจะช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนถอยห่างออกจากวงจรการคอร์รัปชั่น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการโกงในฟากของอุปทานอย่างยั่งยืน
ในบทความของ Center for International Private Enterprise (CIPE) เรื่อง “Carrots Before Sticks : Motivating Mid-Sized Businesses in Emerging Markets to Launch Compliance Programs” ซึ่งเพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อไม่นานนี้ ได้สรุปบทเรียนการดำเนินการในภาคเอกชนเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในหลายๆ ประเทศ ซึ่งมีการพูดถึงความสำคัญของการชี้ให้ภาคธุรกิจเห็นถึงประโยชน์ของการไม่โกง ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจและสมควรจะนำมาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้ทราบด้วย
CIPE เป็นองค์กรไม่แสวงกำไรของสหรัฐอเมริกาที่มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมความแข็งแกร่งของระบอบประชาธิปไตยโดยผ่านการพัฒนาภาคธุรกิจในประเทศต่างๆ และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี และกระบวนการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศต่างๆ ทั้งนี้ CIPE เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต หรือ CAC
ในบทความชิ้นนี้ CIPE ได้ศึกษากรณีการดำเนินการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในสี่ประเทศที่ CIPE ได้เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุน ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน เคนยา และไทย ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งทั่วโลก โดยมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไป ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่สำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความโลภของคนแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของระบบที่บกพร่องเปิดช่องให้มีการทุจริตเกิดขึ้นได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาเชิงระบบที่ต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นระบบด้วย เพราะฉะนั้น การลงโทษและประจานผู้ที่ทุจริตคอร์รัปชั่นแต่เพียงอย่างเดียวจึงยังไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ แต่จำเป็นต้องมีการดำเนินการเชิงรุกเพื่อป้องกันการทุจริต โดยผ่านการปฏิรูประบบในเชิงโครงสร้างทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทานของการคอร์รัปชั่นด้วย
การที่ธุรกิจเอกชนต้องจ่ายสินบนนั้น ในหลายๆ กรณีไม่ได้เกิดจากความต้องการที่จะกระทำการทุจริตใดๆ เลย แต่เกิดจากถูกรีดไถโดยเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับการไม่ถูกดึงเรื่อง หรือกลั่นแกล้งสารพัดรูปแบบ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ธุรกิจที่มีขนาดเล็กหรือขนาดกลางอย่าง SME ถือเป็นเหยื่อชั้นดีของระบบรีดไถ เพราะแทบไม่มีหนทางใดๆ ที่จะต่อสู้ขัดขืนหรือป้องกันตัวเองได้เลย เนื่องจากหากไม่ยอมจ่ายสินบนก็อาจจะส่งผลรุนแรงถึงขั้นทำให้ธุรกิจไปไม่รอดเอาได้ง่ายๆ
การที่บริษัทเล็กๆ เพียงบริษัทเดียวจะไปแข็งขืนกับกระบวนการโกงที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบอาจจะเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่หากหลายๆ บริษัทเข้ามารวมตัวกันในรูปแบบของ Collective Action ก็มีโอกาสที่ภาคเอกชนจะสามารถรวมตัวกันเอาชนะระบบรีดไถได้ ซึ่งการดำเนินการในรูปแบบนี้ได้ผ่านการพิสูจน์จากหลายประเทศแล้วว่าได้ผลเป็นอย่างดี แต่จะต้องอาศัยความร่วมมือและเอาจริงเอาจังอย่างต่อเนื่องของธุรกิจเอกชน สำหรับการดำเนินการด้านนี้ของประเทศไทยถือว่ามีความก้าวหน้าพอสมควร โดยในปัจจุบัน มีบริษัททั้งขนาดใหญ่และเล็กที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดเข้ามาร่วมประกาศเจตนารมณ์ ไม่รับ-ไม่จ่ายสินบนกับ CAC แล้วถึงกว่า 500 บริษัท ซึ่งถือเป็นพัฒนาการในทางที่ดีซึ่งทุกฝ่ายต้องพยายามร่วมกันผลักดันต่อไป
ประการสำคัญ คือ ต้องชี้ให้บริษัทต่างๆ เห็นถึงประโยชน์ของการปรับปรุงกลไกป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ภายในบริษัทและการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนที่จะไม่รับ-ไม่จ่ายสินบนว่าจะส่งผลดีต่อองค์กรอย่างไรบ้าง ซึ่งจากประสบการณ์ของหลายๆ ประเทศก็พิสูจน์แล้วว่า นอกจากจะช่วยให้บริษัทบริหารความเสี่ยงในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้บริษัทมีชื่อเสียงในทางที่ดี มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน และได้รับความน่าสนใจมากขึ้นจากพันธมิตรทางธุรกิจในตลาดโลกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทที่มีกลไกป้องกันการทุจริตอย่างดีนั้นมักจะมีราคาหุ้นดีกว่าโดยเปรียบเทียบด้วย เพราะนักลงทุนมั่นใจในการดำเนินการของบริษัทและยินดีที่จะให้ Premium มากกว่าบริษัทที่มีความเสี่ยงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นสูง
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านบทความฉบับเต็มในภาษาอังกฤษได้ที่ : http://www.cipe.org/publications/detail/carrots-sticks-motivating-mid-sized-businesses-emerging-markets-launch


