ถกครม.ไทย-กัมพูชาชื่นมื่นเผยสัมพันธ์ 2 ประเทศดีสุดเท่าที่มีมา

นายกไทย -กัมพูชา แถลงผลประชุม ครม.ร่วม พร้อมลงนามเอ็มโอยู 5 ฉบับ เดินหน้าความร่วมมือด้านต่างๆ เผยสัมพันธ์ 2 ประเทศดีที่สุดเท่าที่มีรัฐบาลมา

วันที่ 19  ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนาย ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-กัมพูชา อย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขยายความร่วมมือและฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ครบ 65 ปี

จากนั้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ร่วมกันแถลงผลการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ไทย- กัมพูชาพร้อมได้เป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือบันทึกความเข้าใจ(MOU)ทั้งหมด5ฉบับ คือ 1.แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 2 เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น 2.บันทึกความเข้าใจ เพื่อการพัฒนาจุดผ่านแดนแห่งใหม่ที่บ้านหนองเอี่ยน จ.สระแก้ว และสตึงบท จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา 3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานเพื่อเป็นกรอบความร่วมมือทางวิชาการความร่วมมือด้านพัฒนาฝีมือแรงงานและความร่วมมือด้านการจ้างงาน 4. ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้การจ้างงานมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ขจัดการจ้างงานผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ และ5.ลงนามMOUการจัดตั้ง Business Council Thailand - Cambodia

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ65ปีความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ซึ่งความสัมพันธ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ดีที่สุดเท่าที่มีรัฐบาลมา มีการเดินหน้าความร่วมมือในด้านต่างๆ เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะยกระดับการค้าการลงทุนในระดับอาเซียน และเพิ่มช่องทางให้กับประชาชนของทั้ง2ประเทศ

ด้านนาย ฮุนเซน กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี สะท้อนความสัมพันธ์ และความร่วมมือของทั้ง2ประเทศ และการเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และภูมิใจกับความร่วมมือของ2ประเทศที่มีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน และจะขยายความสัมพันธ์แบะความร่วมมือเพิ่มมากขึ้นในทุกด้าน โดยในปีค.ศ.2020 จะเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น3เท่า คือ1.5หมื่นล้านดอลล่าสหรัฐ พร้อมเปิดด่านพรมแดนให้รถผ่านไปมาทั้ง2ประเทศจากวันละ40คัน เป็นวันละ500คัน ทั้งยังซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานความช่วยเหลือในด้านทรัพยากรมนุษย์ต่อกัมพูชา และในการประชุมครม.ร่วมครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญมประเทศกัมพูชา ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีของได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมประชุมแล้ว