สปก.ต้องชี้แจง
กลายเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อมีเกษตรกรกลุ่มหนึ่งใช้ชื่อว่า กลุ่มเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค เข้าไปบุกรุกที่ดินของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และบริษัทเอกชนรายอื่นในพื้นที่ภาคอีสาน ได้แก่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย และสระแก้ว การเข้าไปบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว ก็เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลจะแจกที่ดินให้กับเกษตรกร จึงเข้าไปจับจองพื้นที่ไว้ก่อนเพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะที่ดินนั้นเป็นของเอกชนไม่ใช่ของรัฐบาลที่จะนำไปจัดสรรให้กับเกษตรกรได้
การแจกที่ดินให้แก่เกษตรกรนั้น จะดำเนินการผ่านคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งได้จัดซื้อที่ดินให้แก่เกษตรกรสภาประชาชนเช่าซื้อที่ดินรายละไม่เกิน 15 ไร่ ด้วยการปฏิรูปที่ดินไปจำนวน 1,889 ราย และมีเกษตรกรขอมารับสิทธิ 1,466 ราย และยังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อที่ดิน 679 ราย ในจำนวนนี้รับโอนกรรมสิทธิ์ให้กับเกษตรกรแล้ว 24 ราย ซึ่งทาง ส.ป.ก. คาดว่าในปีงบประมาณ 2554 จะดำเนินการเสร็จทั้งหมด
ดังนั้น เกษตรกรที่มิได้ลงทะเบียนและอยู่ในข่ายได้รับสิทธิ หากไปบุกรุกที่ดินของบริษัทแม้จะถือหุ้นโดยรัฐบาลก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง และอาจจะถูกดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่ง และเจ้าของที่ดินที่เสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
เรื่องการบุกรุกพื้นที่ของ บสท. นั้น เป็นเรื่องที่เกิดจากการเข้าใจผิดของประชาชนที่อาจจะถูกยุยงว่า บสท. เป็นบริษัทเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียของระบบสถาบันการเงิน มีอายุกำหนดเพียง 10 ปี และจะต้องยุบเลิกในวันที่ 8 มิ.ย. 2554 หลังจากนั้นอาจจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและทรัพย์สินทั้งหมดคืนให้หน่วยงานของรัฐ ซึ่งอาจจะนำที่ดินมาจัดสรรให้เอกชนได้
โดยข้อเท็จจริง บสท. ยังคงมีงานเต็มมือ โดยตลอดปี 2553 แผนงานสำคัญของ บสท. คือ การจัดเก็บหนี้ 13,820 ล้านบาท ขายเอ็นพีเออีก 7,400 ล้านบาท และระหว่างต้นเดือน ม.ค.8 มิ.ย. 2554 บสท. จะต้องจัดเก็บหนี้ 8,730 ล้านบาท และขายเอ็นพีเออีก 2,700 ล้านบาท หากขายไม่หมดก็อาจจะต้องโอนหนี้ไปให้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์อื่นของรัฐให้ดูแลแทน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการนำเอาที่ดินของ บสท. มาจัดสรรให้กับเกษตรกร
ความเข้าใจผิดนี้รัฐบาลควรจะต้องรีบออกมาชี้แจงเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามใหญ่โต หากเกษตรกรมาบุกรุกเพราะไม่รู้จริงๆอาจจะกลายเป็นโดนลงโทษโดยไม่รู้ แต่หากมีเบื้องหลังก็ต้องสาวออกมาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์นี้แม้จะแปลกๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าการจัดการแจกที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ของ ส.ป.ก. นั้น ล่าช้าไร้ประสิทธิภาพมาก มีผู้มาขอรับสิทธิ 1,466 ราย แต่เพิ่งโอนสิทธิให้เกษตรกรได้แค่ 24 รายเท่านั้น
เรื่องนี้ ส.ป.ก. ควรจะต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า การแจกที่ดินนั้นเกณฑ์เป็นอย่างไร และที่ดินของเอกชนไม่สามารถนำมาจัดสรรให้กับผู้อื่นได้ เพราะผิดกฎหมาย ทำความเข้าใจกับประชาชน และขอให้ออกจากการบุกรุกที่ดินก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายไปกว่านี้ และจะต้องสืบสาวเบื้องหลังว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร


