ดีเอสไอทลายโกดังเสื้อผ้ากีฬาปลอมมูลค่ากว่า30 ล้าน
ดีเอสไอ ทลายแหล่งจำหน่ายและโกดังเก็บสินค้าเสื้อผ้ากีฬาปลอม ย่านปทุมวัน โบ๊เบ๊ เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
ดีเอสไอ ทลายแหล่งจำหน่ายและโกดังเก็บสินค้าเสื้อผ้ากีฬาปลอม ย่านปทุมวัน โบ๊เบ๊ เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
เวลา 11.30 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ นางกรรณิกา ร่มโพธิ์เงิน รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักฯ และพ.ต.ท.สุมิตร ชโนวิทย์ ผอ.ส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นจับกุมแหล่งจำหน่ายและสถานที่เก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้ากีฬาปลอมเครื่องหมายการค้ารายใหญ่ย่านปทุมวันและโบ๊เบ๊ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ และยังกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
พ.ต.อ.ไพสิฐิ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเข้าทำการตรวจค้นร้านจำหน่ายเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่และที่เก็บสินค้าย่านปทุมวันและโบ๊เบ๊ รวม 9 จุด โดยเป็นร้านจำหน่ายสินค้า 5 ร้าน ได้แก่ ร้านนานาภัณฑ์ (จุฬา), ร้าน 9 นานา, ร้านดาวสปอร์ต, ร้านซุปเปอร์แมน ถ.บรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ และร้านนานาภัณฑ์ (โบ๊เบ๊) ที่บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าวันแอทโบ๊เบ๊ ถ.ดำรงรักษ์ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ซึ่งแต่ละร้านจะมีที่เก็บสินค้าอยู่ด้านในและชั้นบน พร้อมทั้งตรวจค้นห้องเก็บสินค้า 4 ห้อง ได้แก่ ห้องเลขที่ 299/233, 299/224, 299/30, ห้องชื่อโบ๊เบ๊โอเค ไม่มีเลขที่ ศูนย์การค้าวันแอทโบ๊เบ๊
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ผลการตรวจค้นพบของกลางประเภทเสื้อและกางเกงกีฬาปลอมเครื่องหมายการค้าของสโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งเปิดฤดูกาลใหม่เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เช่น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และเชลซี รวมถึงชุดกีฬายี่ห้ออื่นๆ เช่น ไนกี้, อดิดาส และพูม่า รวมจำนวน 20,705 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมน.ส.ภิชญาพร ซื้อนิธิไพศาล, น.ส.ณัฐกาญจน์ สุขสวัสดิ์, นายขรรค์ชัย ติยาภรณ์มณี และนายรุ่งโรจน์ อมรชัยทรัพย์ โดยนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยกล่าวหาว่า เสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้ว ในราชอาณาจักร ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าร้านค้าดังกล่าวเป็นขบวนการลักลอบจำหน่ายเสื้อผ้ากีฬาปลอมเครื่องหมายการค้ารายใหญ่ โดยจำหน่ายทั้งปลีกและส่งทั่วประเทศมาเป็นเวลานาน
"ประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) จัดลำดับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ อยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบ โดยถูกมาตรการตอบโต้ทางการค้าจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสทางการค้าอย่างมากจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นหน้าที่โดยตรงของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะต้องปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศดังกล่าว"พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว


