ไหว้ช้างกันหน่อยดีไหม?

โดย...ปริญญา ผดุงถิ่น

ผมเห็นผู้เชี่ยวชาญสัตว์ป่ามาออกทีวี บอกว่าการไหว้ขอชีวิตจากโขลงช้างป่าเขาใหญ่ ของสิงห์มอเตอร์ไซค์นิรนาม (แกคงอาย ไม่ยอมแสดงตัวต่อสาธารณชนจนบัดนี้) เป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม อาจเชิญชวนให้ช้างทำร้ายได้

ฟังแล้วรู้สึกขัดแย้งนะ เพราะผมมองว่าท่าก้มตัวห่อตัว ยกมือไหว้นั้น สัตว์ที่มีไอคิวอย่างช้าง น่าจะรับรู้ได้ว่าเป็นท่ายอมแพ้ หรืออย่างน้อยก็ไม่แสดงพิษภัยอะไร ไม่จำเป็นต้องยกมาตรการจากเบา (ข่ม) ไปหาหนัก (ตื้บ)

แต่จะให้ผมไปทดสอบยกมือไหว้ช้าง คงไม่กล้าพอ ดูจากภาพประกอบ รังสีอำมหิตของพ่อพลายตกมันที่เข้ามายืนจังก้าจ่อๆ ช่างน่าสะพรึงกลัว ขนาดผมอยู่ในรถแท้ๆ ยังจิตตก ประหวั่นพรั่นใจกับท่าทางก้าวร้าวเกรี้ยวกราดมั่กๆ (แต่ไม่วายยื่นเลนส์ไปถ่ายรูปนะ แหะๆ)

อย่างไรก็ดี ผมเพิ่งไปเจอพระที่เคยออกธุดงค์เดี่ยวกลางป่าใหญ่มาแล้วรูปหนึ่ง หลวงพี่คอมเมนต์เลยว่า การไหว้ช็อตนั้นของสิงห์มอเตอร์ไซค์ ถูกต้องแล้วนะโยม

ว่าแล้ว ท่านก็เล่าประสบการณ์ธุดงค์ที่สุดแสนประหลาดในสายตาคนไกลวัดอย่างผม ขอนำมาถ่ายทอดสู่กันฟัง

ท่านว่าครั้งหนึ่ง ธุดงค์ไปนั่งสมาธิคนเดียวกลางป่าเขาอ่างฤาไน โดยจัดหาอ้อยและมะละกอมากองวางไว้ข้างๆ ตัว รอจนคืนสุดท้ายก่อนกลับ ช้างโทนตัวหนึ่งก็มาจนได้ ท่านหลับตาทำสมาธิรอเลย

ช้างเดินเข้ามาหยิบอ้อยและมะละกอกิน ก่อนยื่นงวงมาดมกลิ่นตามตัว ความที่ยังอ่อนประสบการณ์ หลวงพี่เปลี่ยนจากท่านั่งนิ่ง เอื้อมมือไปจับงวงซะงั้น เท่านั้นเอง พี่ช้างก็ปรี๊ดแตก งวงคว้าตัวท่านจนลอยจากพื้น จีวรหลุดจากกายติดงวงไป ช้างก็จัดการเหยียบๆๆ ถ้าจีวรไม่หลุดก็คงไม่รอด หลวงพี่ว่า

มาถึงขั้นนี้ ความเสี่ยงต่อชีวิต ต้องบอกว่ายิ่งกว่าสิงห์มอเตอร์ไซค์มือไม้อ่อนคนนั้น แทนที่จะขวัญหนีดีฝ่อ ท่านกลับ “ใจดีสู้ช้าง” หลับตาทำสมาธิต่อ ปรากฏว่าได้ผล ช้างสงบลงและเดินจากไป

พระธุดงค์หลายรูป ผ่านหลักสูตรนี้มาอย่างสบายๆ แต่บางรูปก็ไม่รอด ท่านว่านี่คือการฝึกสมาธิขั้นก้าวหน้า แบบว่าการไปนั่งสมาธิตามป่าช้าล่อเป้ากับผีสางนางไม้ เป็นแค่เบสิก

วิธี “สงบสยบความเคลื่อนไหว” มีตัวอย่างให้ดูมากมายในยูทูบ ทั้งเมืองไทยเมืองนอก ของไทยเราเจ๋งสุด ต้องยกให้ตาแว่นที่ป่าภูหลวง เฉียดตายซะยิ่งกว่ารายเขาใหญ่ ใครเห็นคลิปเสียวไส้นี้ต่างวิจารณ์กันสนุก ติงต๊องละมั้งเนี่ย 555 ส่วนในแอฟริกาก็ทำกันเป็นว่าเล่น ถึงขั้นทำท่าเบื่อหน่ายใส่ช้างที่ปรี่มายืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยล่ะ

ใครมีประกันชีวิตดีๆ ไปลองเทสต์ทฤษฎีนี้ดูได้