'ดาต้าเซ็นเตอร์' ภาพชัดแจ๋วสิ้นปี เปิดลงทุนโครงข่ายบรอดแบนด์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาเรื่อง “พลิกโฉมเศรษฐกิจ การลงทุนไทย ภายใต้นโยบาย Digital Economy” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาเรื่อง “พลิกโฉมเศรษฐกิจ การลงทุนไทย ภายใต้นโยบาย Digital Economy” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
อุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า การลงทุนของภาครัฐในด้านไอซีที จะมีเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ประเมินความต้องการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ในระยะ 3-5 ปีนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน และข้อมูลส่วนใดที่จัดเก็บร่วมกันได้ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเห็นแผนที่ชัดเจนว่าแนวทางการลงทุนจะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ซึ่งบริษัท กสท โทรคมนาคม และบริษัท ทีโอที ก็มีแผนลงทุนทำท่อร้อยสาย และโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ คาดว่าภายในปีนี้จะมีแผนลงทุนที่ชัดเจนเช่นกัน
“ประเด็นคือทำอย่างไรให้ประชาชนในต่างจังหวัดเข้าถึงโครงข่ายบรอดแบนด์ เพราะตอนนี้พื้นที่ให้บริการยังไม่ครอบคลุม ยังไงภาครัฐก็ต้องลงทุน โดยให้ทั้งสองหน่วยงานขับเคลื่อนเพื่อเติมช่องว่างตรงนี้ให้เต็ม แต่นโยบายคือให้ร่วมมือกันลงทุน และเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วม เช่น อาจลงทุนร่วมกัน หรือให้เช่าใช้โครงข่าย เป็นต้น” อุตตม กล่าว
รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า เป้าหมายของรัฐบาลคือการทำให้ไทยเป็นดิจิทัลฮับของอาเซียน ซึ่งจะต้องดึงภาคธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาลงทุนในไทย อาทิ เฟซบุ๊ก กูเกิล แต่ก่อนอื่นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงข่ายบนบกและในทะเลให้พร้อมเสียก่อน ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีกว่าจะไปถึงจุดที่เป็นดิจิทัลฮับได้
ด้าน สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่ได้ประโยชน์จากการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้วยเศรษฐกิจยุคดิจิทัลอีกมาก และการประมูล 4จี จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจและก้าวต่อไปในอนาคต ปัจจุบันดัชนีกลุ่มไอซีทีของไทยอยู่ในอันดับ 4 ของอาเซียน รองจากบรูไน สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยในเดือน พ.ย.จะมีการประมวลผลคะแนนกลุ่มไอซีที โดยหวังว่าเรื่อง 4จี อาจเป็นตัวแปรหนึ่งที่จะทำให้ดัชนีกลุ่มไอซีทีของไทยขยับขึ้นไปสู่ระดับประเทศที่พัฒนาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของภาคธุรกิจหรือนักลงทุนยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีสุด ทำให้มองว่าหุ้นกลุ่มที่น่าจะปรับขึ้นในระยะยาว ก็ยังพอมีจังหวะให้ลงทุนอยู่บ้าง ปกติก่อนเปิดประมูล 3จี ปี 2555 หุ้นก็ปรับตัวขึ้นเพราะมีการเก็งกำไร เมื่อดำเนินการเสร็จก็มีการขายออกไป จากนั้นก็มีการขึ้นมาต่อเนื่อง แต่ระหว่างที่รอการประมูล 4จี ดัชนีมีการขึ้นลง กลุ่มไอซีทียังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ เพราะที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอนี้จะใช้เป็นโอกาสในการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทั้งการปฏิรูปการเงิน การคลัง รวมถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขณะนี้พึ่งการส่งออกอยู่ถึง 70% ต้องหาทางที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าให้แข่งขันได้
นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญในการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ โดยในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลสิงคโปร์ที่เดินทางมาประชุมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดระหว่างสิงคโปร์กับไทย ซึ่งสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการลงทุนในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ยังมีความสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทยอีกหลายอย่าง เช่น ลงทุนในระบบคมนาคม โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว เช่น การลงทุนในท่าเรือยอชต์และท่าเรือสำราญ จึงได้เสนอให้มีการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีไทย-สิงคโปร์ แบบเต็มคณะ ซึ่งจะกำหนดอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2559


