posttoday

อุทยานฯแนะที่เที่ยวสวยแต่ไม่ฮิต เลี่ยงรถติด-คนแน่น

28 ตุลาคม 2558

เข้าสู่ฤดูหนาว แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ไปชมสายหมอกรับลมหนาว

โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน

เข้าสู่ฤดูหนาว แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ไปชมสายหมอกรับลมหนาว ยิ่งเป็นสถานที่ยอดนิยม ก็ย่อมมีผู้ไปเยือนเป็นจำนวนมาก ทำให้จราจรติดขัด ไม่มีที่พัก อาหารและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่เพียงพอ

แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความสวยงาม แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก มีนักท่องเที่ยวไปเยือนน้อย ปราศจากปัญหาดังกล่าวข้างต้น

สมหมาย กิตยากุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ยังมีอุทยานฯ ที่มีความสวยงามและมีอากาศหนาวเย็นไม่แพ้อุทยานฯ ยอดนิยม ที่ควรไปเที่ยวและพักผ่อนในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดการแออัดทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและปัญหาการจราจรติดขัด ได้แก่

ภาคเหนือ อุทยานฯ แม่จริม จ.น่าน อุทยานฯ ศรีลานนา จ.เชียงใหม่อุทยานฯ ภูสอยดาว และอุทยานฯ ต้นสักใหญ่ จ.อุตรดิตถ์ อุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก อุทยานฯ คลองลาน และ อุทยานฯ คลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร อุทยานฯ แม่เมย จ.ตาก อุทยานฯ แม่ยม จ.แพร่

ภาคตะวันตก ได้แก่ อุทยานฯ เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี อุทยานฯ ลำคลองงู และอุทยานฯ ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อุทยานฯ เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

ภาคตะวันออก อุทยานฯ น้ำตกสามหลั่น จ.สระบุรี อุทยานฯ เขาสิบห้าชั้น จ.จันทบุรี อุทยานฯ ทับลาน จ.ปราจีนบุรี อุทยานฯ ปางสีดา จ.สระแก้ว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุทยานฯ ภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี อุทยานฯ ภูสระดอกบัว และ อุทยานฯ ภูผาเทิบ จ.มุกดาหาร อุทยานฯ ไทรทอง จ.ชัยภูมิ 

ภาคใต้ อุทยานฯ ธารโบกขรณี จ.กระบี่ อุทยานฯ หมู่เกาะระนอง จ.ระนอง อุทยานฯ น้ำตกหงาว จ.ระนอง อุทยานฯ คลองพนม จ.สุราษฎร์ธานี อุทยานฯ เขาปู่-เขาย่า จ.พัทลุง อุทยานฯ น้ำตกสี่ขีด จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

“นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอุทยานฯ ที่ยังมีนักท่องเที่ยวไม่มาก เพราะส่วนใหญ่มักจะเดินทางไปแล้วกลับเลย แต่น่าไปสัมผัส เช่น อุทยานฯ น้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี อุทยานฯ ภูผาเทิบ จ.มุกดาหาร อุทยานฯ ตาดโตน จ.ชัยภูมิ เป็นต้น”

รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า กรมอุทยานฯ ได้จัดอันดับความนิยมของสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวไปพักแรมเป็นจำนวนมาก 10 อันดับ ประกอบด้วย 1.อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 2.อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 3.อุทยานฯ ห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 4.อุทยานฯ น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี 5.อุทยานฯ ภูหินร่องกล้า จ.เพชรบูรณ์ 6.อุทยานฯ หมู่เกาะช้าง จ.ตราด 7.อุทยานฯ ภูแลนคา จ.ชัยภูมิ 8.อุทยานฯ ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี 9.อุทยานฯ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จ.แม่ฮ่องสอน และ 10.อุทยานฯ ดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ ขณะอุทยานฯ ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมรองลงมา อาทิ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ อุทยานฯ ภูเรือ จ.เลย อุทยานฯ ภูกระดึง จ.เลย อุทยานฯ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี อุทยานฯ อ่าวพังงา จ.พังงา อุทยานฯ ดอยภูคา จ.น่าน อุทยานฯ แจ้ซ้อน จ.ลำปาง อุทยานฯ ศรีน่าน จ.น่าน อุทยานฯ ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก อุทยานฯ เขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น

“บ้านพักในอุทยานฯ เหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกจองเต็มยาวไปถึงต้นปี 2559 แล้ว จะมีเหลือก็เพียงลานกางเต็นท์ เนื่องจากต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้กระทบกับธรรมชาติ ดังนั้นจึงอยากให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบการจองบ้านพักและลานกางเต็นท์ว่าถูกจองเต็มแล้วหรือไม่ หากเต็มแล้วนักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในอุทยานฯ ใกล้เคียงแทนได้ โดยสามารถตรวจสอบและจองบ้านพักอุทยานฯ แบบออนไลน์ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.dnp.go.th ตลอด 24 ชม. ได้ทางโทร.02-562-0760, 02-561-0777 ต่อ 1743 และ 1744 ได้ในวันเวลาราชการ หรือสายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 ได้ตลอด 24 ชม.”

สมหมาย กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดเก็บเงินรายได้อุทยานฯ ประจำปี 2558 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557-ก.ย. 2558 ได้จัดเก็บเงินรายได้อุทยานฯ ทั้งหมดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 886 ล้านบาท โดยอุทยานฯ ที่จัดเก็บเงินรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุทยานฯ เอราวัณ จ.กาญจนบุรี ประมาณ 90 ล้านบาท 2.อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 87 ล้านบาท 3.อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ 83 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025