เผยโฉม 4 นิสิตเกษตรฯ เจ้าของไอเดีย โมบายเลน

เรื่องและภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดีย กับโครงการ "โมบายเลน" การแบ่งช่องทางเดินสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ กับผู้ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยมีสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์แสดงชัดเจน บนบาทวิถีทางเดิน หน้าศูนย์เรียนรวม1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  จนหลายคนคิดว่านี่เป็นโครงการของทางมหาวิทยาลัย

แท้จริงแล้วโครงการดังกล่าว มีที่มาจากแนวคิดของ 4 หนุ่มสาว นิสิตชั้นปีที่ 3 แห่งคณะบริหารธุรกิจ ภาควิชาการตลาดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แฟรงค์, แบทนิว, น้ำฝน และฝน ในนามกลุ่ม "ไปเที่ยวญี่ปุ่น"

ณัฐดนัย อดิศรพันธ์กุล (แฟรงค์) หัวหน้ากลุ่มหนุ่มน้อยอารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรร, วรรณพร วุฒาพาณิชย์ (แบทนิว) สาวสวยร่าเริง ผู้ชอบรับฟังผู้อื่น, น้ำฝน ฉลองสุขวัฒน์ (น้ำฝน) น้องเล็กเด็กที่สุดในกลุ่ม แต่มีความคิดและเป็นเจ้าวิชาการมากที่สุด,  ปิยะวรรณ โกวิทโรจนพงศ์ (ฝน) สาวใสผู้มองโลกในแง่ดี ไม่มีความโกรธ ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ

ทั้ง 4 ร่วมกันระดมความคิด ผุด 2 โครงการ คือโครงการโมบายเลน และโครงการข้ามทางม้าลาย โดยมีแนวคิดเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางในมหาวิทยาลัย ซึ่งมี รองศาสตราจารย์ ชื่นจิตต์ แจ้งเจนกิจ เป็นที่ปรึกษา เพื่อส่งเข้าประกวดโครงการ โตโยต้าแคมปัสชาเลนจ์ 2015 ภายใต้โครงการถนนสีขาว ที่เปิดรับผลงานจากนักศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งมีนักศึกษาส่งผลงานเข้าประกวด มากกว่า 500 โครงการ
   
โครงการโมบายเลน ที่มีการแชร์ภาพกันมากมาย จนโด่งดังในโลกสังคมออนไลน์ คือการจัดแบ่งช่องทางเดินสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ การแชท เล่นไลน์ หรือฟังเพลง กับผู้ที่ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยมีเส้นแบ่งชัดเจน และมีรูปสัญลักษณ์โทรศัพท์มือถือในช่องทางเดินของผู้ใช้โทรศัพท์และ รูปโทรศัพท์มือถือพร้อมเครื่องหมายขีดทะแยงทับสำหรับผู้ไม่ใช้โทรศัพท์  มีจุดประสงค์หลักคือความปลอดภัย เพราะผู้ใช้โทรศัพท์ จะขาดสมาธิกับการเดินทางมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงจัดช่องทางเดินไว้ด้านในสุด(ไม่ติดถนน) และผู้ไม่ใช้โทรศัพท์อยู่ในช่องทางเดินที่ติดถนน

"โดยมีหลักจริงๆ ก็คือต้องการรณรงค์ให้ผู้ที่รู้ตัวเองว่ากำลังใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ ให้เดินชิดขอบทางเดินด้านใน ไม่เดินติดถนน ซึ่งมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย"
   
โครงการข้ามทางม้าลาย คือการรณรงค์ให้นิสิต นักศึกษา ข้ามทางม้าลาย โดยทำเป็นรูปม้าลาย ตรงทางข้าม และย้ำให้ผู้ใช้ถนนต้อง มองด้านซ้ายและขวาก่อนทุกครั้งก่อนข้ามเสมอ แม้จะไม่โด่งดังเท่าโมบายเลน แต่ก็มีหลักคิดเดียวกันคือ ความปลอดภัยในการเดินทาง และทั้งสองโครงการก็ผ่านเข้ารอบการประกวด และกำลังอยู่ในช่วงการทดลองปฏิบัติจริง
   
แม้จะมีเวลาไม่มากนัก แต่พวกเขาก็ทุ่มเทเต็มที่ นัดมีการประชุมกัน หลายครั้ง และระดมสมองกันตลอดเวลาผ่านทางไลน์ ในที่สุดก็ปิ้งไอเดีย เมื่อพวกเขาเห็นพฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบัน ที่มีการใช้โทรศัพท์กันมาก เป็นกิจวัตรหนึ่ง และความจำเป็นในสังคม บางคนมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสารแม้ในขณะที่กำลังเดินทางด้วยความเร่งรีบ ประกอบกับมีข่าว การประสบอุบัติเหตุของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยครั้ง ทำให้พวกเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ผ่านโครงการที่พวกเขาส่งเข้าประกวด
   
ชื่อทีม " ไปเที่ยวญี่ปุ่น" ก็มาจาก รางวัลที่หนึ่งจากการประกวด ที่จะได้ไปดูงานที่ญี่ปุ่น พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ซึ่งเป็นความฝันของเด็กๆทั้ง 4 คน

ขณะนี้ ทั้ง2 โครงการ กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดทองใช้ในมหาวิทยาลัย และไม่ได้เป็นโครงการของทางมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด หลังการประกวดเสร็จสิ้นลง ทั้ง 2 โครงการอาจจะยุติลง หรืออาจจะมีการนำไปปรับใช้ ยังไม่แน่นอน ซึ่งการประกวดโครงการดังกล่าว จะตัดสินในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2558

โครงการ โมบายเลน เป็นหนึ่งโครงการที่พวกเขาภูมิใจมาก หลังจากมีการแชร์กันในโซเชียลมีเดียมากมายจนโด่งดัง มีทั้งเสียงชื่นชม มีทั้งเสียงตำหนิ แต่พวกเขาก็ยอมรับฟัง และแม้จะไม่ได้รางวัลใดๆเลย พวกเขาก็อยากให้โครงการของพวกเขาได้มีโอกาสถูกนำไปพัฒนาและปรับใช้ในสังคมต่อไป เพื่อความปลอดภัยของผู้คนในสังคม.