ของดีพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม

โดย...เอกชัย จั่นทอง

ทว่าจะหาพระสงฆ์ที่ชอบปลีกวิเวกปฏิบัติกรรมฐานตามป่าเขา น้อยนักจะแลเห็นในปัจจุบัน นอกเหนือจากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระผู้เลิศทางธุดงควัตร ปฏิบัติสมถะและวิปัสสนาตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า จนมีลูกศิษย์จำนวนมากทั้งพระสงฆ์และฆราวาส หลังจากพระอาจารย์มั่นมรณภาพลงปี 2492 ยังคงมีพระสงฆ์ที่เป็นลูกศิษย์ท่านสืบสานต่อแนวปฏิบัติเรื่อยมา โดยเฉพาะพระกรรมฐานสายวัดป่า หรือสายหลวงปู่มั่น

อย่างพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม เจ้าอาวาสวัดสิริสาลวัน หรือวัดป่าบ้านโนนทัน อ.หนองบัว ลำภู จ.อุดรธานี ซึ่งอดีตหลายคนทราบดีว่าวัดแห่งนี้อยู่ในดินแดนราบสูง แห่งภาคอีสาน เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดป่าอยู่ใจกลางป่าดงดิบ รายล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์อย่างหนาทึบ โดยถัดออกจากตีนเขาภูพานเพียงเล็กน้อย และวัดแห่งนี้เขาร่ำลือกันว่าถูกรายล้อมไปด้วยผู้ก่อการร้ายมีกำลังจำนวนมาก ถือเป็นดงของคนเหล่านั้น และเคยปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่พระอาจารย์บุญมากลับไม่ได้กลัวภาพความเลวร้ายอันตรายเหล่านั้นเลย แต่กลับหาที่วิเวกทำความเพียรอยู่ในวัดสิริสาลวันอย่างไม่สะทกสะท้านต่อกระสุนปืนและความตายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

พระอาจารย์บุญมาหาใช่พระปฏิบัติธรรมทั่วไป ท่านยังเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ผู้คอยสืบสานพระธรรมวินัยทางศาสนาและแนวปฏิบัติเดียวกับหลวงปู่มั่นมาอย่างเคร่งครัด พระอาจารย์บุญมานั้นรุ่นราวคราวเดียวกับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล

แต่พระอาจารย์บุญมาเป็นพระที่ชอบเก็บตัวเงียบ ไม่ชอบความพลุกพล่านวุ่นวาย และเข้าสังคมกับคนภายนอก ท่านจะถือปฏิบัติโดยทำความเพียรอย่างหามรุ่งหามค่ำ ไม่ย่อมย่างกรายไปที่ไหน แม้แต่กิจนิมนต์ท่านก็พยายามหลีกเลี่ยง เพราะการเข้าสังคมกับคนหมู่มากยอมเป็นอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติความเพียร

นั่นจึงทำให้ชื่อเสียงของพระอาจารย์บุญมาไม่เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะคนภายนอกจะไม่รู้จักท่านดี นอกจากพระฝ่ายคณะกรรมฐานในสายของหลวงปู่มั่นเท่านั้นที่รู้ว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่มีคุณภาพอันสูงส่ง และเป็นที่เคารพนับถือในหมู่พระสงฆ์ โดยเฉพาะผู้ชอบวิเวกอยู่ตามป่าเขา ในช่วงที่หลวงปู่มั่นยังมีชีวิตอยู่ พระอาจารย์บุญมาได้ติดตามเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ มากมาย ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน ก่อนที่หลวงปู่มั่นจะมรณภาพลง พระอาจารย์บุญมาจึงได้แยกย้ายจากหมู่คณะไปปักกลดวิเวกบริเวณวัดสิริสาลวัน

การปักกลดเพื่อปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์บุญมาแล้ว ท่านยังได้พัฒนาแผ้วถางหญ้าทำการปลูกสร้างศาลา กุฏิ เรือนตึก แบบทันสมัยขึ้นในพื้นที่บริเวณนั้น ซึ่งอยู่ใจกลางป่าดงดิบ จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดความฉงนสงสัยว่า พระอาจารย์บุญมานำเงินที่ไหนมาก่อสร้าง หรืออาจได้เงินสนับสนุนจากฝ่ายคอมมิวนิสต์ เพราะวัดถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและทันสมัยมาก ราคานับล้านบาท เพื่อความกระจ่างแจ้งของเจ้าหน้าที่รัฐจึงได้ส่งนายตำรวจสันติบาลชั้นผู้ใหญ่ปลอมตัวเข้าไปคลุกคลี เพื่อสืบหาความจริงจากท่าน จนในที่สุดก็ทราบว่าเงินที่ได้จากการก่อสร้างนั้นมาจากผู้มีจิตศรัทธาที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสในตัวท่านทั้งสิ้น ทั้งหมดช่วยกันสร้างถวายให้กับพระอาจารย์บุญมา เรื่องการมองท่านในแง่ร้ายจึงถูกแปรเปลี่ยนไป

บริเวณวัดสิริสาลวันจัดเป็นลานกว้าง สองข้างทางที่ติดต่อระหว่างกุฏิหลังต่อหลังนั้น ท่านตัดเป็นเส้นทางลอดไปตามพุ่มไผ่รวกที่ขึ้นสวยงามเป็นกอใหญ่เขียวชอุ่ม เรียงรายตลอดสองฝั่งข้างทาง นับว่าวัดของพระอาจารย์บุญมานั้นเงียบสงัดวังเวงเหมาะแก่การจะวิเวกทำสมาธิกรรมฐานได้อย่างดี นั่นจึงทำให้บรรดาลูกศิษย์ท่านจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ใกล้เคียงพากันมาปฏิบัติธรรมสมาธิและรับธรรมะจำนวนมาก

พรอาจารย์บุญมานับเป็น
พระที่มีอารมณ์เยือกเย็น มีเมตตาต่อคนและสัตว์ ให้การรับรองแขกทุกคนที่มาหาอย่างเท่าเทียมเสมอภาค โดยไม่มีการเลือกที่รักที่ชัง นั่นจึงทำให้ผู้มาเยือนต้องหวนกลับมาเยี่ยมท่านอีกหลายต่อหลายครั้งแทบทุกคน ท่านมักจะพูดกับลูกศิษย์เสมอว่า การทำจิตให้สงบเพื่อทำความเพียรนั้น การอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือในกรุง ย่อมเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวดต่อพระนักปฏิบัติ แม้ท่านพระอาจารย์มั่นเองท่านยังได้ห้ามศิษย์ของท่านทุกคนหนักหนาว่า พระกรรมฐานนั้นต้องไม่อยู่ในกรุงในเมือง ต้องอยู่ตามถ้ำ ตามป่าตามเขา เพราะสถานที่ดังกล่าวจะไม่มีสิ่งใดมารบกวนให้จิตเกิดกระสับกระส่ายได้ และไม่เป็นอันตรายต่อการทำความเพียร

กรรมฐานในเมืองกรุงนั้นความจริงคือกรรมฐานที่อยู่เพื่อหาลาภผล หาสมณศักดิ์หลอกลวงตัวเองและคนอื่น ศิษย์ของท่านอาจารย์มั่นทุกคนจึงไม่นิยมอยู่ในกรุงในเมือง เพราะเป็นอันตรายที่ล่อแหลมต่อการปฏิบัติธรรม

ในปี พ.ศ. 2517 พระอาจารย์บุญมาได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถแบบ 4 มุข ทรงเดียวกับวัดเบญจมบพิตร ในกรุงเทพมหานคร เสร็จเรียบร้อย ก่อนจะทำการฝังลูกนิมิต บรรดาลูกศิษย์จึงร่วมใจกันสร้างเหรียญรวม 3 แบบ ออกทำการแจกจ่ายแก่ผู้ไปร่วมงานฝั่งลูกนิมิตของวัด สำหรับเหรียญทั้ง 3 แบบพิมพ์นี้ ยังได้สร้างพระผงพิมพ์รูปเหมือนของพระอาจารย์บุญมาขึ้นอีกพิมพ์ มีความโดดเด่นคือได้ผสมผงและเส้นผมของพระอาจารย์บุญมาไว้ในองค์พระทุกองค์ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จึงได้นิมนต์พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์ขาว อนาลโย พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ พระอาจารย์วัน อุตฺตโม และพระอาจารย์ทุกองค์ในภาคอีสาน สายของพระอาจารย์มั่น ได้ร่วมกันทำพิธีปลุกเสกเหรียญและพระเครื่องรุ่นนี้ให้กับพระอาจารย์บุญมาอย่างพร้อมเพรียง

เมื่อการทำพิธีปลุกเสกเสร็จสิ้น งานฝังลูกนิมิตของวัดป่าบ้านโนนทันจึงได้เริ่มขึ้น บรรดาเหรียญและพระเครื่องดังกล่าว จึงได้ถูกนำออกมาแจกจ่ายแก่ผู้ที่มาร่วมทำบุญฝังลูกนิมิตครั้งนี้ ส่วนเรื่องพุทธคุณของเหรียญและพระเครื่องรุ่นนี้แทบไม่ต้องโฆษณาประกาศ เพราะบรรดาพระปรมาจารย์ในภาคอีสานทุกองค์ และสายของพระอาจารย์มั่น ที่กระจัดกระจายอยู่ตามถ้ำตามป่าเขาทั่วประเทศต่างหลั่งไหลมาร่วมพิธีกับพระอาจารย์บุญมาด้วยกันทั้งหมด

ดังนั้น พระเครื่องชุดนี้จึงเพียบพร้อมไปด้วยเมตตามหานิยม แคล้วคลาด อยู่ยงคงกะพัน โดยเฉพาะพระเครื่องชุดนี้เมื่อนำไปตรวจพุทธคุณดูแล้ว ปรากฏมีเมตตามหานิยมสูง บรรดาเซียนหน้าใหม่และเก่าจึงหันไปนิยมเสาะหาเหรียญพระอาจารย์บุญมาเป็นหลักเพื่อเก็บไว้บูชากัน ซึ่งเหรียญและพระเครื่องชุดดังกล่าว ทางวัดจะแจกเป็นของชำร่วยให้แก่ผู้มาร่วมทำบุญตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไป เงินรายได้ก็จะนำไปบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะของวัด เพื่อให้เสร็จพร้อมสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์

สำหรับเหรียญและพระเครื่องของพระอาจารย์บุญมานั้นจะมีเฉพาะที่วัดสิริสาลวันเท่านั้นเพราะท่านไม่ยอมให้นำเหรียญของท่านไปให้ที่อื่นเช่ากัน เพราะจะกลายเป็นสินค้า นอกเหนือจากวัดท่านแล้วหากที่อื่นมีให้เช่า พระอาจารย์บุญมาถือว่าเหรียญเหล่านั้นเป็นเหรียญนอกสายสิญจน์ คือ ทำเกินโควตาของพระอาจารย์บุญมา