ปิดถนนหน้าศาลากลางแพร่ต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น

ชาวสะเอียบปิดถนนหน้าศาลากลางแพร่กดดันพ่อเมืองยกเลิกหนังสือนัดชุมนุมสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

กลุ่มชาวบ้านต.สะเอียบ ต.สอง อ.เมือง กว่า 500 คน นำโดยนายอุดม ศรีคำภา,น.ส.พจนีย์ ขวัญยืน ประธานเยาวชนกลุ่มตะกอนยม ได้เดินทางโดยรถยนต์ร่วม 100 คัน และนำไปจอดไว้ที่อบจ.แพร่ หลังจากนั้นเดินทางเท้าเข้ามาปิดถนนหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ กางเต้นท์เป็นที่พักพร้อมรับประทานอาหาร เพื่อเรียกร้องให้นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.แพร่ ยกเลิกหนังสือสั่งการไปยังสถานศึกษาในการล่ารายชื่อสนับสนุนการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น และเวียนไปถึงส่วนราชการให้พนักงาน ข้าราชการ ลูกจ้าง ลงรายมือชื่อ เลขที่บัตรประชาชน พร้อมชักชวนสมาชิกในครอบครัวให้มาลงนามสนับสนุนการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น และให้มาชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้
 
ชาวบ้านได้ถือป้ายและเปิดเวทีปราศรัยด้วยรถเครื่องเสียง นำมาจอดไว้บริเวณถนนระหว่างหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ และ หน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดแพร่ ทำให้ถนนไชยบูรณ์ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนั้นชาวบ้านยังได้ตั้งเต้นท์จำนวน 5 หลัง เพื่อหลบแดดฝน ซึ่งถ้าหากการเจรจาในวันนี้ไม่มีข้อตกลงที่แน่นอน และทางออกที่ดี ชาวบ้านก็จะพักค้างคืนบริเวณหน้าศาลากลางแพร่ โดยเตรียมแม่ครัวในการหุงหาอาหารมาพร้อม
 
ขณะที่พล.ต.ต.ฉลองชัย บุรีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สิโรฒน์ ภาคพิชเจริญ ผู้กำกับการ สภ.เมืองแพร่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าศาลากลางแพร่ ร่วม 100 นาย
 
น.ส.พจนีย์  กล่าวว่า คณะกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต.สะเอียบ ขอประณามความอัปยศที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของนักการเมืองบางคน และขอเรียกร้องให้ผวจ.แพร่ ยกเลิกคำสั่งที่มีไปยังสถานศึกษา และหน่วยงานราชการ ไม่ให้มีการส่งรายชื่อไปยังรัฐบาลและที่สำคัญให้ยกเลิกการชุมนุมของผู้สนับสนุนในวันที่ 16 ก.ค.ด้วย อยากให้หันมาร่วมมือกับประชาชนในการอนุรักษ์ปกป้องรักษาป่าสักทอง รวมทั้งเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
 
ด้านนายเส็ง ขวัญยืน กำนันตำบลสะเอียบ ได้นำกล่าวโจมตี ทั้งรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ถึงการกระทำดังกล่าว และยังคงพูดเป็นแนวทางเดิมถึงการคัดค้านอย่างต่อเนื่องและการยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยแกนนำไม่ว่าจะเป็นนายอุดม ศรีคำภา และกลุ่มตะกอนยมต่างผลัดเปลี่ยนกับขึ้นเวทีกล่าวโจมตีรัฐบาลในเรื่องนี้
 
นายสมชัย  กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด เชื่อว่าทุกคนทุกฝ่ายต่างมีแนวคิดที่แตกต่าง ฝ่ายที่ว่าเห็นด้วย เห็นด้วยเหตุใดก็แสดงความคิดเห็นมา ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุใด ก็ให้แสดงมา แล้วจังหวัดจะได้รวบรวมส่งไปให้รัฐบาล ทุกคนมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่ความคิดเห็นต่างกันต้องไม่แตกแยก ในวันที่ 16 ก.ค.ที่จะมีกลุ่มสนับสนุนมานั้น ทางผวจ.ไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะเราต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกส่งไปให้รัฐบาล อาจจะมีช่องให้แสดงความคิดเห็น 2 ช่องในวันที่ 16 ก.ค.นี้
 
ทั้งนี้ถ้าหากทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญกัน ทั้งเห็นด้วย เหตุผลอย่างไร ไม่เห็นด้วยอย่างไร อันนี้เป็นข้อดีข้อเสียที่เราจะรายงานรัฐบาลได้ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ต้องรับฟังความคิดเห็นทั้งสองฝ่าย ทั้งด้านบวกและด้านลบ การจะปิดกั้นไม่ให้คนอื่นแสดงความคิดเห็นเป็นไปไม่ได้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของชาวบ้านและเยาวชน เป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้ตั้งแกนนำชาวบ้านประกอบด้วยกำนันเส็งขวัญยืน นายชุม สะเอียบคง นายก อบต.สะเอียบ กลุ่มชาวบ้านประมาณ 6 คนและน.ส.เยาวลักษณ์ ศรีคำภา ตัวแทนกลุ่มตะกอนยม ได้ขึ้นไปบนชั้น 5 ศาลากลางแพร่เพื่อเจรจาหาข้อยุติกับ ผวจ.แพร่ ซึ่งการเจรจากลุ่มตัวแทนผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้สั่งยกเลิกการชุมนุมของผู้สนันสนุนสร้างเขื่อนวันพรุ่งนี้
 
อย่างไรก็ตามผวจ.แพร่ ได้ยืนยันว่าเขาสามารถที่จะมาแสดงความคิดเห็นของคนที่อยากได้เขื่อนย่อมเป็นสิทธิของเขา การที่จะสั่งยกเลิกคงทำไม่ได้ เอาเป็นว่าจะไม่ให้มีการตั้งโต๊ะลงลายมือชื่อแสดงคามคิดเห็นของผู้ที่อยากได้เขื่อน หลังจากนั้นนายสมชัยฯได้เดินลงไปพบประชาชนผู้เรียกร้องค้านเขื่อนรับหนังสือข้อเรียกร้อง ประชาชนผู้ชุมนุมพอใจจึงยอมสลายตัวไปในเวลา 15.50 น.