posttoday

บันทึกจาก‘ทับเบิก’10 ปีที่เปลี่ยนไป

04 ตุลาคม 2558

10 ปีก่อน วิถีชีวิตชาวม้งท่ามกลางไร่กะหล่ำปลีสุดลูกหูลูกตา การกางเต็นท์ หาฟืนก่อไฟไล่ความหนาว

โดย...สุนทร คงวราคม

10 ปีก่อน วิถีชีวิตชาวม้งท่ามกลางไร่กะหล่ำปลีสุดลูกหูลูกตา การกางเต็นท์ หาฟืนก่อไฟไล่ความหนาวเพื่อชมดาวบนยอดดอย และตื่นขึ้นมาสัมผัสไอหมอกในช่วงเช้า คือเสน่ห์ของ ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งใน UNSEEN THAILAND

เพียงแต่ 10 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปยังภูทับเบิกเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ จนภูทับเบิกเปลี่ยนแปลง ที่พักหลากสีสันเพิ่มขึ้นนับพันหลัง ผู้ที่เคยหลงใหลภูทับเบิกในอดีต เผยแพร่ความเห็นในโลกออนไลน์ว่า “ปี 2558 เหมือนยกชุมชนเมืองมาไว้บนยอดภู กับผู้นิยมเทรนด์ตามหมอกสวยๆ กับห้องพักหรูๆ สะดวก สบาย... แต่คุณรู้ไหม ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำร้ายทับเบิก”

จริงหรือที่ “ภูทับเบิก” กำลังถูกทำร้าย? คนเก่าคนแก่ที่อยู่กับภูทับเบิกมาทั้งชีวิต ลุงใจ แซ่เถา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านทับเบิกร่วมใจ เล่าย้อนหลังไปเมื่อช่วงปี 2546 สมัยที่ ดิเรก ถึงฝั่ง เป็น ผวจ.เพชรบูรณ์ ได้มาบุกเบิกภูทับเบิกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการตกลงจะให้ภูทับเบิกเติบโตไปในทิศทางรักษาพื้นที่ให้มากที่สุด ให้มีที่พักแบบโฮมสเตย์หรือนอนเต็นท์ ชมดาวบนดินและสัมผัสไอหมอกกับความหนาวเย็น รวมทั้งให้ชาวม้งทับเบิกต้องรักษาวิถีชีวิตชุมชนและอาชีพปลูกกะหล่ำปลีไว้ให้ได้ ซึ่งภูทับเบิกขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

“แต่หลังการท่องเที่ยวภูทับเบิกเติบโตและบูมมากขึ้น ทิศทางการท่องเที่ยวก็เริ่มเปลี่ยนไป ประกอบกับนักท่องเที่ยวต้องการความสะดวกสบายและยินดีจ่าย ทำให้มีนักลงทุนซึ่งเป็นคนไทยในพื้นราบมาสร้างรีสอร์ท กระทั่งชาวม้งในพื้นที่หันมาลงทุนบ้าง โดยเปลี่ยนจากไร่กะหล่ำปลีมาเป็นบ้านพักรีสอร์ท และจากการที่ธุรกิจไปได้ดีทำให้คนอื่นหันมาเอาอย่าง แต่ด้วยเงินทุนที่มีจำกัดทำให้จำเป็นต้องลดต้นทุน โดยสร้างบ้านพักแบบชั่วคราวกึ่งถาวรจึงไม่แข็งแรง”

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บอกอีกว่า ภายหลังรีสอร์ทผุดขึ้นมากเพราะทางหน่วยงานราชการควบคุมไม่อยู่ ทำให้เริ่มมีปัญหากับชาวม้งในหมู่บ้าน เพราะทรัพยากรที่มีอยู่เริ่มแบ่งปันไม่ลงตัว อาทิ น้ำซึ่งหมู่บ้านต้องสูบไปทำประปาหมู่บ้าน แต่ถูกรีสอร์ทสูบขึ้นไปทำธุรกิจ จึงต้องมีข้อตกลงโดยกำหนดห้วงเวลาการสูบน้ำ

“ส่วนเรื่องขยะที่รีสอร์ทและนักท่องเที่ยวสร้างขึ้นแต่นำมาทิ้งในบ่อขยะของหมู่บ้าน ก็พยายามให้รีสอร์ทไปหาสถานที่ทิ้งเองแต่ยังตกลงไม่ได้ นอกจากนี้ปัญหาจราจรคับคั่งทำให้รถติด เป็นสิ่งที่ทุกคนลำบากใจแต่ก็พูดไม่ออก เพราะส่วนใหญ่ต่างเป็นญาติพี่น้องกันทั้งสิ้น จึงต้องหวานอมขมกลืนมาจนถึงทุกวันนี้”

ลุงใจบอกว่า ความชอกช้ำของคนภูทับเบิกนั้น เคยขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดระเบียบและดูแลแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

ทุกวันนี้ ใกล้เข้าช่วงท่องเที่ยวในฤดูหนาว บรรดารีสอร์ทต่างๆ บนภูทับเบิก ต่างเร่งก่อสร้าง ขยายห้องพักเพิ่ม รถกระบะ รถหกล้อ บรรทุกวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งรถโม่ปูนวิ่งขึ้นลงภูทับเบิกกันตลอดทั้งวัน เป็นภาพที่มาแทนมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านเผ่าม้ง ที่พาดตะกร้ากับอานรถเพื่อขนกะหล่ำปลีลงมาขาย ภูสวรรค์ หรือไร่กะหล่ำปลีที่กว้างสุดลูกหูลูกตาก็ลดพื้นที่ลง โดยมีที่พักหลังคาหลากสีสันนับพันหลังเข้ามาแทน ลานกางเต็นท์รอบๆ ยอดภูทับเบิกจุดสูงสุด กลายเป็นบ้านพักรีสอร์ทและร้านค้าจนเต็มพื้นที่

วิถีชาวม้งภูทับเบิกกำลังเปลี่ยนแปลงไป กับกระแสท่องเที่ยวที่รุกโหมเข้ามาอย่างหนัก

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1