รองผอ.ตบเด็กยอมรับผิดแต่ไม่ขอโทษนร.ชี้ทำไปเพราะความเป็นครู

รองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสางยอมรับผิดกรณีตบศีรษะเด็กม.5 แต่ไม่ขอโทษนักเรียน ชี้ทำไปด้วยสำนึกความเป็นครู

จากกรณีสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปรองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ใช้มือขวาตบศีรษะนักเรียนชั้นม.5 ขณะที่เป็นแกนนำเรียกร้องให้ผู้บริหารโรงเรียนชี้แจงการเรียกเก็บเงินเพิ่มในกิจกรรมพิเศษต่างๆของโรงเรียนจนเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยจะสรุปผลการสอบสวนให้เสร็จภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ พร้อมมีคำสั่งย้าย รองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสาง ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 เป็นการชั่วคราว จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายไอสูรย์ปิยธร จุฑาธรรม รองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสาง ซึ่งเป็นผู้ที่ปรากฏในคลิปได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ขอยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป และยอมรับผลกระทบที่จะเกิดตามมาทุกอย่าง ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายร่างกายลูกศิษย์ แต่กระทำลงไปเพราะความเป็นครู และต้องการยุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในโรงเรียน

"ผมได้พูดจากับเด็กนักเรียนดีแล้ว และก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาที่เด็กนักเรียนเรียกร้อง แต่เด็กนักเรียนก็ไม่ฟัง ซึ่งผมยอมรับว่ากระทำผิด แต่ผมจะไม่ขอโทษเด็กนักเรียน เพราะผมกระทำไปด้วยสำนึกความเป็นครู"นายไอสูรย์ปิยธรกล่าว

นายไอสูรย์ปิยธร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 ส.ค.จะเดินทางไปรายงานตัวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

ด้านนักเรียนชั่น ม.5 ที่ถูกตบศีรษะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุมีความรู้สึกโกรธอาจารย์ที่ตบศีรษะ แต่พอเวลาผ่านไปก็ไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นอะไร และยังเคารพในตัวอาจารย์เหมือนเดิม พร้อมยืนยันว่าไม่คิดแจ้งความดำเนินคดีกับอาจารย์อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามตนยังรอฟังคำชี้แจงทางผู้บริหารของโรงเรียนเรื่องการเรียกเก็บเงินค่ากิจกรรมพิเศษต่างๆ ไปจากเด็กนักเรียนที่ชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหวังว่าทางผู้บริหารโรงเรียนคงชี้แจงเรื่องที่เด็กนักเรียนอยากทราบในเร็วๆ นี้

นายสมัคร ไวยขุนทด ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา ฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า แนวทางเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น ต้องเร่งสร้างบรรยากาศการเรียนการสอน ให้กลับมาเหมือนเดิม นัดหมายเชิญคณะกรรมการสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการนักเรียนมาประชุม โดยให้พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกเล่าข้อเท็จจริง เพื่อบันทึกถ้อยคำ ส่วนรองผอ.คงไม่ให้มาที่โรงเรียน เพราะเกรงปัญหาจะบานปลายอีก จึงนัดสอบสวนที่ สพม. 31 นม. จากนั้น เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้อง แสดงความคิดเห็น