รูปหล่อหลวงปู่แหวนหลังพัทธสีมา

โดย...ประสาร ปัจฉิมชน

ไหนๆ คราวก่อนได้พูดถึงการสร้างพระเครื่องของอุบาสก แก้ว ศิริรัตน์ ลูกศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ และเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส แล้วถ้าไม่พูดต่อเรื่องรูปหล่อหลวงปู่แหวนนั่งหลังพัทธสีมาก็คงจะขาดตกบกพร่องไปมาก

วัตถุมงคลรุ่นนี้อุบาสก แก้ว ศิริรัตน์ และพระอาจารย์เจือ ธมฺมธีโร วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ร่วมกันดำเนินการจัดสร้างขึ้น แล้วกลายเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่ระลึกถึงหลวงปู่แหวน ซึ่งผู้นิยมพระเครื่องไม่อาจจะมองข้ามไปได้ เพราะคณะผู้สร้างได้ใช้ความพิถีพิถันจนทำให้พระรุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนาน

รูปหล่อหลวงปู่แหวนหลังพัทธสีมาไม่ได้สร้างขึ้นจากวัตถุมีค่าอย่างเงินหรือทองคำ อย่างที่สมัยนี้นิยมกัน หากแต่สร้างขึ้นโดยเนื้อโลหะพิเศษ 6 อย่าง ดังต่อไปนี้

1.ตะกรุดเก่าจำนวนมาก เป็นน้ำหนักหลายกิโลกรัม ซึ่งก่อนจะนำตะกรุดเก่าเหล่านี้ใส่ลงในเบ้าหลอม ผู้สร้างได้นำไปถวายให้หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิตซ้ำก่อน

2.ทองชนวนปนพระกริ่งอรหังและพระชัยวัฒน์อรหัง ซึ่งคณะผู้สร้างชุดนี้ได้สร้างถวายหลวงปู่เมื่อเดือน ม.ค. 2517

3.ทองชนวนพระชัยวัฒน์ท่านเจ้ามาวัดจักรวรรดิราชาวาส หรือวัดสามปลื้ม

4.แผ่นทองแดง จำนวน 108 แผ่น ลงยันต์ 108 ยันต์ เป็นไปตามขนบของการสร้างพระกริ่งตามแบบแผนโบราณาจารย์

5.แผ่นเงิน 14 แผ่น ลงยันต์นะครอบจักรวาล 14 นะ

6.แผ่นจารทองคำ เงิน และทองแดง ของหลวงปู่แหวน

หลังจากสรรหาวัตถุที่จะใช้สร้างได้หมดแล้ว คณะผู้สร้างได้ขออนุญาตหลวงปู่แหวนจัดประกอบพิธีที่วัดดอยแม่ปั๋ง เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2517

หนังสือที่ระลึกงานศพอุบาสกแก้ว ระบุไว้ว่า "ในคืนวันสุมทองคือคืนวันที่ 26 มี.ค. 2517 นั้น หลวงปู่ได้นั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกแผ่นโลหะและเนื้อผงโลหะทั้งปวงที่จะนำมาหล่อสร้างครั้งนี้ โดยโยงสายสิญจน์จากกุฏิหลวงปู่ไปยังศาลาการเปรียญไปวงรอบบรรดาแผ่นโลหะและแผ่นยันต์ทั้งหลายที่จะใช้ในการนี้ กับโยงไปโดยรอบมณฑลพิธีที่กำลังสุมทองอีกบริเวณหนึ่งด้วย

"สำหรับฤกษ์เททองนั้นคือเวลา 11.19 น. ของวันที่ 27 มี.ค. 2517 ซึ่งตรงกับวันพุธขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล อันเป็นเทวีฤกษ์ ...ขณะที่เททองนั้น หลวงปู่แหวนได้นั่งอธิษฐานจิต เพื่อประจุพลังความศักดิ์สิทธิ์จากกุฏิท่านส่งไปยังบริเวณพิธีโดยผ่านสายสิญจน์ตลอดเวลา

"เมื่อถึงเวลาได้ฤกษ์พระครูสันติวรญาณ หรือหลวงพ่อสิม พุทฺธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ศิษย์สำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เป็นผู้จุดเทียนชัยและเททองแทนหลวงปู่แหวน เพราะท่านไม่ยอมเททองหล่อรูปตัวท่านเอง จึงมอบให้หลวงพ่อสิมเททองแทน ขณะเดียวกันพระสงฆ์นำโดยพระอาจารย์หนู สุจิตฺโต เจ้าอาวาสดอยแม่ปั๋ง พระอาจารย์คำบ่อ ฐิตปญฺโญ รองเจ้าอาวาสวัดก็สวดชยันโตและสวดแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เสร็จแล้วหลวงพ่อสิมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตามเบ้าหุ่นมงคลวัตถุทั้งหมด”

หลังจากได้รูปหล่อจำนวนทั้งหมด 5,000 องค์ เป็นรูปหล่อหลวงปู่แหวนนั่งสมาธิเต็มองค์ด้านหลังมีพัทธสีมา ผนังลายใบโพธิ์ ด้านหลังเป็นอักษรล้านนา ตามแบบที่หลวงปู่แหวนเขียนให้ มีความว่า “พุทโธ อรหัง” เบื้องล่างเป็นอักษรภาษาไทยว่า “หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ” ขนาดวัดตามฐานกว้าง 1.4 ซม. สูง 2.3 ซม. เสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะผู้สร้างได้เจาะฐานรูปหล่อแต่ละองค์แล้วบรรจุส่วนผสม 3 อย่างเข้าไปที่ใต้ฐานนั้น

ส่วนผสมดังกล่าวคือ 1.ผงไตรมาสของเจ้าคุณนรฯ โดยเจ้าคุณนรฯ ปลุกเสกให้ในพรรษา ปี 2511 2.ผงไตรมาสซึ่งหลวงปู่แหวนปลุกเสกให้ในพรรษา ปี 2516 และ 3.เกศาของหลวงปู่แหวน

ผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ผู้สร้างก็ได้ตอกโค้ดเอาไว้ 3 แห่ง คือ ด้านหลังตรงกลางตอกตราธรรมจักร ด้านหลังเบื้องล่างสุดตอกเลข พ.ศ. คือ “๑๗” ที่ใต้ฐานตอกตราเจดีย์

เมื่อเสร็จตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ได้นำไปให้หลวงปู่สิมอธิษฐานจิตให้ในวันที่ 27 พ.ย. 2517 แล้วนำไปถวายหลวงปู่แหวน โดยนำขึ้นไปไว้ในกุฏิหลวงปู่แหวนเพื่อให้ท่านอธิษฐานจิตให้ตามแต่จะสะดวกเป็นเวลานานถึง 1 เดือนเศษ 

คงจะด้วยกรรมวิธีดังกล่าวนี้ ในหนังสือที่ระลึกงานศพของอุบาสกแก้ว จึงระบุว่า “นับว่าการหล่อสร้างรูปเหมือนหลวงปู่แหวนรุ่นนี้ได้ประกอบพิธีกรรมอย่างเต็มแบบ สมบูรณ์แบบ ครบถ้วนทั้งพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์”