posttoday

หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

21 มิถุนายน 2558

มีศิษย์อาวุโสสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต รูปเดียวที่หลังจากละขันธ์แล้ว มีการสร้างเจดีย์อนุสรณ์ขึ้นเคียงข้างกับพิพิธภัณฑ์อัฐบริขาร หลวงปู่มั่น ที่วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร หนึ่งเดียวรูปนั้นนามว่า “หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร” แห่งวัดผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย

มีศิษย์อาวุโสสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต รูปเดียวที่หลังจากละขันธ์แล้ว มีการสร้างเจดีย์อนุสรณ์ขึ้นเคียงข้างกับพิพิธภัณฑ์อัฐบริขาร หลวงปู่มั่น ที่วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร หนึ่งเดียวรูปนั้นนามว่า “หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร” แห่งวัดผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย

ผู้เจาะจงให้เลือกสร้างเจดีย์อนุสรณ์ ณ ที่แห่งนั้น คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เหตุผลในพระกระแสรับสั่งครั้งนั้นมีความว่า “ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ที่วัดนี้มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน”

หลวงปู่หลุยเป็นหนึ่งในแม่ทัพนายกองใหญ่แห่งกองทัพธรรมของหลวงปู่มั่น และหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ท่านมีอายุอ่อนกว่าหลวงปู่ขาว อนาลโย 10 ปี และอ่อนกว่าหลวงปู่ฝั้น อาจาโร 2 ปี แต่ทั้ง 3 รูปนี้ ญัตติเป็นธรรมยุตปีเดียวกัน คือ พ.ศ. 2468 โดยหลวงปู่หลุยมีศักดิ์เป็นนาคขวา หลวงปู่ขาวเป็นนาคซ้าย หลวงปู่หลุยจึงมีความอาวุโสในทางสมณเพศมากกว่าหลวงปู่ขาวเพราะญัตติก่อน 15 นาที และทั้งสองรูปนี้ญัตติก่อนหลวงปู่ฝั้น 7 วัน

หลวงปู่หลุยเป็นพระป่าที่ไม่ใคร่จะอยู่เป็นที่ เรื่องหลักธรรม และความกระจ่างแจ้งในธรรมนั้นไม่มีข้อสงสัยเพราะครูบาอาจารย์ก็ยกย่องว่า ท่านเป็นหนึ่งในพระอริยบุคคลร่วมสมัย แต่ที่ผิดกับพ่อแม่ครูอาจารย์รุ่นๆ เดียวกัน คือ วัตถุมงคลของท่านมีน้อยรุ่น ที่เป็นรูปเหรียญของท่านมีอยู่บ้าง แต่ที่นักสะสมวัตถุมงคลถือว่าเป็นพระของหลวงปู่หลุย คือ พระหล่อนาคปรกและพระปิดตามหาลาภจิ๋ว

อย่างไรก็ตาม หากค้นคว้าประวัติการสร้างพระชุดนี้ ก็พบว่าแม้จะถูกจัดในทำเนียบว่าเป็นพระของหลวงปู่หลุย แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพียงแค่คติของผู้ที่ยังติดอยู่กับวัตถุ

พระสององค์นี้อยู่ในกล่องเดียวกัน โดยพระนาคปรกนั้นมีขนาดความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร สูง 2.4 เซนติเมตร มีพุทธลักษณะแบบพระปางนาคปรกศิลปะสมัยลพบุรี อยู่ในซุ้มซึ่งมีลักษณะเหมือนกระดองเต่า ส่วนพระปิดตามหาลาภจะมีความสูงเพียง 1 เซนติเมตร

แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ว่าด้วยเรื่องความสง่างามแล้วได้รับการยกย่องว่าสวยงาม เพราะเป็นฝีมือของช่างเอก คือ นายช่างเกษม มงคลเจริญ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอกในการสร้างวัตถุมงคลที่มีพุทธศิลป์งดงาม จนยุคหลังๆ นี้มีผู้เก็บสะสมเฉพาะงานที่ท่านผู้นี้ออกแบบไว้ก็มี

ตามบันทึกที่ค้นคว้าได้ พระนาคปรกซุ้มเรือนแก้วและพระปิดตามหาลาภหลวงปู่หลุยนี้สร้างด้วยเนื้อนวโลหะ 2,000 ชุด สร้างด้วยเนื้อทองคำอีก 10 ชุด ไม่มีเนื้ออื่นนอกจากนี้

วัตถุประสงค์ในตอนสร้างนั้นก็เพื่อหารายได้ไปสมทบทุนช่วยสร้างพระอุโบสถวัดสันติสังฆาราม ของหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร 2.สร้างพระเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และสมทบสร้างหลังคาวัดปากคลองหลวงแพ่ง จ.ฉะเชิงเทรา

พระรุ่นนี้ผ่านการอธิษฐานจิต 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2518 โดยหลวงปู่ฝั่น อาจาโร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2518 โดยหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี ครั้งที่ 3 โดยหลวงปู่หลุย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.และครั้งที่ 4 นำเข้าพิธีอธิษฐานจิตเหรียญเจ้าคุณอุบาลี ที่วัดบรมนิวาส

การอธิษฐานจิตในครั้งที่ 3 นั้น หลวงปู่สิมได้มีหนังสือมาขอความเมตตาจากท่านด้วย เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว หลวงปู่หลุยยังได้มีหนังสือตอบกลับไปยังหลวงปู่สิมด้วยว่า ได้อธิษฐานให้แล้วเรียบร้อย

ผู้สนใจเรื่องวัตถุมงคลของท่าน ก็อาจเสาะหาเพราะเครื่องรุ่นนี้ ส่วนผู้สนใจต้นธารของ ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านก็ต้องเสาะหาวิชา “ม้างกาย” ของหลวงปู่

 วิชา “ม้างกาย” เป็นคำสอนที่ท่านพร่ำบอกให้ลูกศิษย์ปฏิบัติอยู่เสมอ

“ม้าง” เป็นภาษาอีสาน แปลว่า แยก ออกเป็นส่วนๆ หรือ รื้อออก แยกออก เช่น ม้างบ้าน ก็คือ รื้อบ้าน แยกบ้าน ม้างกาย ก็คือ รื้อกาย แยกกายออกเป็นส่วน พิจารณาให้เห็นเป็นไตรลักษณ์ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นั่นเอง

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันอังคารที่ 23 ธ.ค. 68