เรียนดี...กีฬาเด่น...สู่ความสำเร็จ

โดย...พิธานอนันต์ พูลสมบัติ

จากเด็กบ้านนอกที่ชอบเตะฟุตบอล คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถก้าวขึ้นติดทีมชาติ แล้วยังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยเป็นถึง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง แถมมีส่วนช่วยทำคุณประโยชน์ให้กับวงการกีฬาไทยมากมาย นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าคนเราไม่มีใครแก่เกินเรียน ด้วยการไปคว้าปริญญาเอก เมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย

ดร.โสภิต ภาโนมัย นับเป็นบุคคลที่ตรงกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เรียนดี กีฬาเด่น” ตัวจริงเสียงจริงที่มีอยู่ไม่มากนัก เพราะคนส่วนใหญ่ที่เรียนดี กีฬาจะไม่ค่อยเด่น หรือกีฬาเด่น ก็มักจะเรียนไม่ค่อยดี 

ด.ช.โสภิต เกิดและเติบโตที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ด้วยความที่ชอบเตะฟุตบอลมาก แล้วได้มีโอกาสลงเล่นกับพวกผู้ใหญ่แถวๆ บ้านบ่อยๆ เลยทำให้มีการพัฒนาฝีเท้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนจบ ม.ศ.3 (สมัยนัั้นระดับมัธยมศึกษา เรียน 5 ปี ม.ศ.1-5 ยังไม่เป็น ม.1-6) ก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาถามว่า อยากไปเรียนที่กรุงเทพฯ มั้ย เดี๋ยวจะดูลู่ทางให้ เห็นว่าน่าสนใจในการสู่โลกกว้างที่ท้าทาย ก็เลยดั้นด้นเข้าเมืองกรุง ไปคัดตัวโควตานักฟุตบอลเพื่อเรียนต่อชั้น ม.ศ.4 ทั้งที่ โรงเรียนปทุมคงคา เทพศิรินทร์ สวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งต่างก็เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในเชิงลูกหนังยุคนั้น

“ตอนนั้นผมมองว่า สวนกุหลาบฯ คงแก่เรียนเกินไปเลยไม่เลือก ทั้งที่ฝีเท้าเข้าตาผ่านการทดสอบทั้ง 3 แห่ง โดยเลือกเอา เทพศิรินทร์ แต่แล้วมีคนมาทักว่า ทำไมไม่เอาสวนฯ เพราะดีทั้งวิชาการและกีฬาควบคู่กัน ก็เลยเปลี่ยนใจมาเรียนต่อที่สวนฯ แล้วก็ได้แชมป์บอลจตุรมิตรสามัคคี (สวนฯ เทพศิรินทร์ กรุงเทพคริสเตียน อัสสัมชัญ)  ปี พ.ศ. 2521”

ต่อมาก็ได้แชมป์เยาวชนกับทีมเยาวชนท่าเรือ แล้วยังติดเยาวชนทีมชาติไทย ชุดอายุ 18 ปี รุ่นเดียวกับ มาด๊าด ทองท้วม ตอฮา นาคนาวา หลังจากนั้นก็ได้เล่นให้ทีมชาติไทยด้วยเช่นกัน

ดร.โสภิต เกือบติดยศทหารมาถึงทุกวันนี้แล้ว เนื่องจาก อำนาจ เฉลิมเชาวลิต อดีตกัปตันฟุตบอลทีมชาติไทย ชวนไปเล่นให้ทีมทหารบก แล้วก็ได้แชมป์ถ้วย ก. แต่ทว่าต้องมีการไปฝึกที่ศูนย์สงครามพิเศษ เรียนโดดร่ม ทำให้รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ดูแล้วไม่ใช่ทางด้วย จึงตัดสินใจลาออกดีกว่า หลังรับราชการทหาร สังกัดกองการกีฬา และกรมรบพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ 7 ปี (พ.ศ. 2523-2530) ซึ่งระหว่างนั้นก็จบปริญญาตรี สาขาพลศึกษา วิทยาลัยครูจันทรเกษม  ปีการศึกษา 2526 (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม)

 

หลังจากนั้นก็มาทำงานที่มหาวิทยาลัยรังสิต ของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการกิจกรรมนักศึกษาและกีฬา (2530-2540) และด้วยความเป็นคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน จึงไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ จนไปคว้าปริญญาโท สาขาพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ปีการศึกษา 2538

และแล้วก็ย้ายไปเป็น ผู้อำนวยการสวัสดิการและบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม (2540-2542) ก่อนจะกลับไปมหาวิทยาลัยรังสิตอีกครั้ง ในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการการกีฬา (2542-2544)

จนกระทั่ง ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม ส่งเทียบเชิญให้มาช่วยงานใหญ่เมื่อปี 2545 ในตำแหน่ง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกีฬา เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนรายแรก ที่รับหน้าเสื่อขอจัดกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย โดยคราวที่จัดนั้นเป็นกีฬามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 30 (11-18 ม.ค. 2545) ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีปทุมครองเจ้าเหรียญทองด้วย

ปี 2547 อาจารย์โสภิตได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม และก็นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ได้ขยับย้ายไปที่ไหนอีกเลย

ที่สำคัญยังได้ทุนของสถาบันไปเรียนจนจบปริญญาเอก ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การกีฬา) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปีการศึกษา 2556 จนได้เลื่อนขั้นจากที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียกว่า อาจารย์โสภิต กลายมาเป็น ดร.โสภิต จนทุกวันนี้

เพื่อนร่วมรุ่นที่ซี้ปึ้กสุดๆ ของ โสภิต ตอนที่จบดอกเตอร์ก็คือ ดร.เป็ด หรือ “เป็ด เชิญยิ้ม” ธัญญา โพธิ์วิจิตร อดีตนายกสมาคมตลกแห่งประเทศไทย เพราะความสนิทสนมจากการชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกัน รวมทั้งร่วมเล่นให้ทีมฟุตบอลการกุศล “เศรษฐี 31” ของพี่เป็ดเป็นประจำอยู่แล้ว โดยตัวเองรับหน้าที่เลขานุการของทีม

ทุกวันนี้ ดร.โสภิต อดีตนักฟุตบอลทีมชาติอาวุโส เข้าสู่วัย 55 ปีแล้ว แต่ยังคงรักษารูปร่างและสุขภาพได้ดี โดยสูง 160 เซนติเมตร หนักแค่ 57 กิโลกรัม เนื่องจากออกกำลังกายอยู่เสมอ จนแทบจะไม่มีไขมันส่วนเกินให้เห็นเลย

หากจะบอกถึงคุณประโยชน์ทางด้านกีฬาและบทบาททางสังคมที่ ดร.โสภิต เคยทำนั้น คงต้องบรรยายหลายหน้ากระดาษ จึงขอเอาที่สำคัญๆ ซึ่งพอจะจาระไนได้ดังนี้ ผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัยโลกที่จีน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมฟุตบอลเยาวชนไทย อายุ 22 ปี ที่สิงคโปร์ คณะกรรมการบริหารฟุตบอลทีมชาติไทย ประธานจัดกีฬามหาวิทยาลัยฯ ครั้งที่ 30 “ศรีปทุมเกมส์” คณะกรรมการจัดกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 24 ในไทย ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร รองประธานจัดฟุตบอล เอไอเอส ลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 และสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ

นอกจาก ดร.โสภิต จะเป็นคนเรียนดี กีฬาเด่น แล้ว ยังเป็นคนสมถะ พูดเพราะ อารมณ์ดี จนแทบไม่ค่อยมีใครเคยเห็นแสดงอาการโกรธใคร รวมทั้งสบถคำหยาบใส่ใครด้วย

นี่แหละ...ที่นักกีฬารุ่นหลังๆ ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง ไม่ใช่ดังแล้วลืมตัวจนเสียผู้เสียคน เหมือนกับหลายๆ คนในปัจจุบัน