รถไฟรางเบา พลิกโฉมเมืองภูเก็ต
ภูเก็ตเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน
โดย...อชัถยา ชื่นนิรันดร์
ภูเก็ตเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 2 แสนล้านบาท
กระนั้นระบบขนส่งมวลชนในเมืองภูเก็ตนั้นไม่ค่อยทันสมัยเมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ซึ่งมีเพียงรถโดยสารประจำทาง รถโพถ้อง รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถจักรยานยนต์รับจ้างเท่านั้น แต่ยังไม่มีรถไฟฟ้ารางเบาเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว
ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐและเอกชนพยายามผลักดันโครงการการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเบาให้เกิดขึ้นใน จ.ภูเก็ต แต่เป็นไปอย่างล่าช้า มีการประชุมหารือเพื่อพิจารณา กำหนดเส้นทางและระยะทาง ระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต (รถไฟฟ้ารางเบา) จัดทำระยะทางในหลายจุดมาหลายปี แต่ยังไม่เป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ภูเก็ตเพื่อตรวจติดตามและกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 7 พร้อมกับเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามปัญหาสำคัญเร่งด่วน ตลอดทั้งโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งหมด 6 โครงการ งบประมาณ 24,329.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับในส่วนขอรับการสนับสนุนของโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต (เส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-5 แยกฉลอง งบประมาณเบื้องต้น 23,499 ล้านบาท ทาง จ.ภูเก็ต ได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมควรมีทางแยกเป็น 2 เส้นทางด้วยกัน
เฟสแรกเป็นเส้นทางที่ 1 ระหว่างสนามบินภูเก็ต-5 แยกฉลอง ระยะทาง 60 กม. เส้นทางที่ 2 ระหว่างป่าตอง-อ.เมืองภูเก็ต ระยะทางประมาณ 18.40 กม. เพื่อให้การพิจารณาจัดทำเส้นทางรถไฟรางเบาดังกล่าวให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งเส้นทาง ระยะทางและจุดจอดรถ รวมทั้งตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยว ตลอดจนเส้นทางครอบคลุมเส้นทางรถไฟรางเบาทั้งในเขตเมืองและแหล่งท่องเที่ยว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้แจ้งเพื่อทราบถึงความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนสายท่าอากาศยานภูเก็ต-5 แยกฉลอง มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 มี.ค. 2555 และ 22 ต.ค. 2555 ได้มอบให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเหมาะสมเพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน แก้ไขปัญหาการจราจร ตลอดทั้งลดมลพิษที่เกิดจากการขนส่ง
ระบบขนส่งมวลชนของภูเก็ตจะมีรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบา เส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-5 แยกฉลอง รวม 20 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง ใช้พื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี คาดว่าจะเปิดใช้บริการปี 2564 มูลค่าการลงทุน 23,499 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารประมาณ 6.8 หมื่นคน/วัน ส่วนปี 2593 รองรับผู้โดยสารได้ 1.4 แสนคน/วัน
นิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.ภูเก็ต บอกว่า รัฐบาล คสช.สนับสนุนโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเพราะอยากทำให้ จ.ภูเก็ต ได้รับประโยชน์ที่สมบูรณ์พร้อม คือ ประชาชนอยู่ในเขตเมืองได้รับประโยชน์ ประชาชนอยู่ในเขตท่องเที่ยวก็ได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน พร้อมสนับสนุนสร้างรถไฟ 2 ขา ไม่เพียงแต่ว่าจากท่าฉัตรไชยมายังท่าเรืออ่าวฉลองเท่านั้น ตรงแยกบายพาสควรสร้างแยกอีกเส้นหนึ่งไปที่ป่าตอง
“ถ้าร่างแผนสร้างเส้นทางเสร็จเมื่อไหร่ จะส่งร่างรายละเอียดต่างๆ ให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้รับทราบต่อไป ส่วนเส้นทางต่างๆ สรุปเบื้องต้นแล้ว สรุปสถานีจอดเบื้องต้นแต่ยังสรุปไม่ชัดเจน ต้องรอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สร้างความชัดเจนว่าเส้นใดได้ไม่ได้ ต้องศึกษาเบื้องต้นคร่าวๆ ก่อน” นิสิต กล่าว
ด้าน สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต บอกว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเบา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภูเก็ตให้กลับมาแข็งแกร่ง หลังจากเศรษฐกิจในเมืองซบเซามาหลายปีมาจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก
ขณะที่ ธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต บอกว่า การที่ภาครัฐสนับสนุนโครงการรถไฟฟ้ารางเบาขึ้น ยังจะกระตุ้นให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟูอีกครั้ง จะส่งผลให้ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวขยับปรับตัวสูงขึ้น และเอื้อต่อนักลงทุน เช่น สร้างเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นเมกะโปรเจกต์เกิดขึ้นใน จ.ภูเก็ต คิดเป็นมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งจะกระตุ้นการลงทุนทุกภาคส่วนเช่นกัน


