posttoday

จ้างมโนราห์ 6 หมื่นรำแก้บนหลังบ้านเมืองสงบ

26 มิถุนายน 2553

2 ตายายชาวตรัง จ้างมโนราห์โบราณ 4 คณะ  6 หมื่นบาทรำแก้บนถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องบ้านเมืองไว้ได้ 

2 ตายายชาวตรัง จ้างมโนราห์โบราณ 4 คณะ  6 หมื่นบาทรำแก้บนถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องบ้านเมืองไว้ได้ 

จ้างมโนราห์ 6 หมื่นรำแก้บนหลังบ้านเมืองสงบ

นางสายพิน หรือป้านงค์ สุขคุ้ม อายุ 65 ปี  พร้อมกับ นายวิสุทธ์ สุขคุ้ม อายุ 66 ปี สามี  อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 8 ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นคนว่าจ้างมโนราห์ 4 คณะ มารำแก้บนในครั้งนี้ด้วยเงินส่วนตัว  เพื่อแลกกับความสงบสุขของบ้านเมือง  ด้วยเงินค่าจ้างรวมจำนวนถึง 60,000 บาท ก่อนหน้านี้ครอบครัวของ 2 ตายายและชาวตรังเคารพนับถือ และตามที่ 2 ตายายได้บนบานสานกล่าวเอาไว้  ช่วงที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  กำลังชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล จนกลายเป็นการจราจลก่อการร้ายในที่สุด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
 
โดยได้มีการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวขึ้น นับตั้งแต่วันที่  23 มิถุนายนที่ผ่านมา  โดยมีข้าราชการ และประชาชนที่ทราบข่าว มาเฝ้าติดตามชมการรำมโนราห์โบราณดังกล่าวกันเป็นจำนวนมากนับพันคน  เพราะปกติจะเป็นเรื่องที่หาชมได้ยาก  หลังจากทราบว่า 2 ตายายดังกล่าวว่าจ้างมโนราห์ 4 คณะ มารำแก้บนในครั้งนี้ด้วยเงินส่วนตัว  เพื่อแลกกับความสงบสุขของบ้านเมือง  ด้วยเงินค่าจ้างรวมจำนวนถึง 60,000 บาท

ทั้งนี้ ประชาชนชาวตรังที่มาชมมโนราห์แทงเข้ในครั้งนี้  ต่างก็ได้ช่วยกันบริจาคเงินคนละเล็กคนละน้อย  ตั้งแต่ 20 บาท 100 บาท 500 บาท หรือ 1,000 บาท ตามกำลังศรัทธา  เพื่อได้มีส่วนร่วมกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว  และช่วยเหลือ 2 ตายายสามีภรรยาด้วย 
นอกจากนั้น ยังได้มี นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์  พร้อมด้วยสมาชิกสภา อบจ.ตรัง เขตอำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน  ซึ่งเมื่อทราบข่าวก็ได้รวบรวมเงินจากประชาชนในพื้นที่  มามอบให้กับป้านงค์ ด้วย เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท
 
นางสายพิน หรือป้านงค์ เล่าถึงสาเหตุที่ได้ว่าจ้างสุดยอดคณะมโนราห์โบราณมารำถวายแก้บนในครั้งนี้ว่า  เกิดจากที่ตนเองและสามี ซึ่งติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตลอด  และทราบว่าบ้านเมืองกำลังลำบาก เพราะคนไทยแตกแยกความรักความสามัคคี  และกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ทำการประท้วงรัฐบาลอย่างรุนแรง  มีการฆ่ากันตาย มีการเผาบ้านเผาเมือง และก่อการจลาจลจนกลายเป็นการก่อการร้าย  ซึ่งวันนั้นตนและสามีซึ่งไม่มีบุตร อาศัยอยู่กันตามลำพัง 2 ตายาย  ได้นั่งเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางโทรทัศน์ เห็นบ้านเมืองลุกไหม้เป็นไฟ 
 
นอกจากนี้กลัวว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายจะดำเนินการได้สำเร็จดังนั้น ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง เป็นห่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นห่วงรัฐบาล  อยากให้อยู่ต่อเพื่อทำงานแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นให้ได้  รวมทั้งยังเป็นห่วงลูกหลานที่กรุงเทพฯ และอยากให้บ้านเมืองกลับมามีความสงบร่มเย็นดังที่เคยอยู่กันมา  เมื่อเห็นภาพเหล่านั้น จึงทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว  และเมื่อมองไปบนหิ้งพระ ก็เห็นตาพราน ครูหมอ ตายาย เทวดา  ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองนับถือบูชามาโดยตลอด (ครูหมอหนังตะลุง มโนราห์)  ตนจึงลุกขึ้นจุดธูปเทียนบูชา และบนบานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และสิ่งที่ตนนับถือทั้งหมด  ช่วยชาติบ้านเมืองด้วย และช่วยพระเจ้าอยู่หัว  รวมทั้งขอให้เหตุการณ์สงบ และขอให้รัฐบาลอยู่ทำงานต่อแก้ปัญหาให้ได้  โดยตนและสามี แม้จะไม่มีเงิน ก็จะนำมโนราห์โบราณไปรำถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชุดใหญ่ ตามแบบโบราณ  ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
 
ป้านงค์ เล่าต่อไปว่า ต่อจากนั้น เหตุการณ์ก็สงบลง  จนกระทั่งมีการอภิปรายพรรคประชาธิปัตย์ตามมา  และพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถอยู่ต่อทำงานได้  ตนจึงบอกกับสามีว่า สิ่งที่บนบานไว้สำเร็จแล้ว และบ้านเมืองก็สงบแล้ว  ถึงเวลาที่จะต้องไปหาคณะมโนราห์โบราณ มารำถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ตามที่ได้บนบานเอาไว้  จากนั้น ก็ได้ไปหาคนที่นับถือคือ กำนันชะเอม ดำจุติ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดตรัง  เพื่อขอให้ไปพาไปพบ นายไมตรี อินทุสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง  เพื่อขอใช้สถานที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อนำมาคณะมโนราห์มารำแก้บน  ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ก็ตกปากรับคำอนุญาตในทันที  หลังจากนั้น ก็ได้ไปติดต่อมโนราห์ทั้งหมด 4 คณะ มารำถวายแก้บนดังกล่าว
 
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์  พร้อมสมาชิกสภา อบจ.ตรัง จากอำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว และอำเภอปะเหลียน  ซึ่งได้ร่วมกันรวบรวมเงินมาช่วย ป้านงค์ ด้วยนั้น ก็กล่าวว่า  เมื่อตนทราบเรื่องจาก ป้านงค์ ที่ไปปรึกษาว่า  ได้บนบานให้บ้านเมืองกลับมาสุขสงบดังกล่าว ด้วยค่าจ้างคณะมโนราห์ถึง 60,000 บาท  ก็เห็นความตั้งใจจริงของ ป้านงค์ ที่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข  จึงรับปากว่าจะรวบรวมเงินจากพรรคพวกมาช่วยสัก 20,000 บาท  เนื่องจากตนเห็นว่าคนเฒ่าคนแก่ที่มีอายุมากขนาดนี้  ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมายาวนาน และเห็นความสงบสุขของบ้านเมืองมานาน  แต่วันหนึ่งต้องมาพบกับความไม่ปลอดภัยของชาติบ้านเมือง  ตนจึงรู้สึกเป็นห่วง และพร้อมจะทำทุกอย่าง  เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรองดองของรัฐบาลที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้  และเพื่อช่วยให้ชาติบ้านเมืองของไทยสงบสุขน่าอยู่ตลอดไป

ข่าวล่าสุด

ทองคำพุ่งทำสถิติใหม่ ทะลุ 4,400 ดอลลาร์ครั้งแรก จากคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย