หลวงพ่อวิริยังค์ พระผู้ไม่แก่เกินเรียน
คติพจน์ของไทยว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียน สามารถนำไปใช้กับพระธรรมมงคลญาณ หรือหลวงพ่อวิริยังค์
โดย...สมาน สุดโต
คติพจน์ของไทยว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียน สามารถนำไปใช้กับพระธรรมมงคลญาณ หรือหลวงพ่อวิริยังค์ เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 ได้ดี เพราะท่านประกาศความตั้งใจว่า ท่านจะเรียนพูดภาษาจีน เพื่อนำธรรมะแห่งพระพุทธศาสนาไปประกาศให้ชาวจีนที่ประเทศจีนในปีหน้า ผู้ที่ได้ยินได้ฟังและรู้จักหลวงพ่อวิริยังค์ ต้องรู้สึกเหมือนผู้เขียนแน่นอน นั่นคือความอัศจรรย์เกินบรรยาย
จะไม่ให้แปลกประหลาดใจได้อย่างไร ในเมื่อขณะนี้ท่านมีอายุ 96 ปี
แต่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดไม่ประหลาดใจ และเชื่อว่าเป็นไปได้ เพราะท่านทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าทำไม่ได้มาแล้ว คือเมื่ออายุ 79 ปี เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อสอนฝรั่งชาวแคนาดา ท่านใช้เวลาไม่นาน สามารถสื่อสารกับฝรั่งชาวแคนาดาได้โดยไม่ต้องอาศัยล่ามอีกต่อไป
เรื่องดังกล่าวนี้ ศิริธัช โรจนพฤกษ์ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดติดตามไปปฏิบัติธรรมทุกหนทุกแห่งที่หลวงพ่อวิริยังค์ไป ได้เล่าให้ญาติธรรมฟังขณะที่เดินทางไปบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน 5,300 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2558
ปัจจุบันหลวงพ่อสร้างวัดที่ประเทศแคนาดาแล้ว 9 วัด มีชาวแคนาดาสมัครใจมาปฏิบัติธรรมนับพันคน หลังจากออกพรรษาแล้วจะมีชาวแคนาดาประมาณ 5,000-6,000 คน มาเดินธุดงค์ที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งหลวงพ่อวิริยังค์เป็นผู้นำทุกครั้ง แม้จะสูงวัยขนาดนี้แล้วก็ตาม
หลวงพ่อวิริยังค์ หรือพระธรรมมงคลญาณ เป็นศิษย์ที่รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต นานนับปี หลังจากที่พระอาจารย์กงมาพาท่านเดินทางจาก จ.จันทบุรี ไป จ.สกลนคร ใช้เวลานับเดือนกว่าจะเดินถึงเพื่อฟังโอวาทที่ลึกซึ้งจากหลวงปู่มั่น
เมื่อพบหลวงปู่มั่นสิ่งแรกที่ได้รับใช้ คือ การนวดถวาย เพราะหลวงพ่อวิริยังค์เชี่ยวชาญการนวดตั้งแต่อยู่กับพระอาจารย์กงมา ที่ จ.จันทบุรี การนวดถวายวันนั้นเป็นที่พอใจของหลวงปู่มั่นยิ่ง
พระธรรมมงคลญาณ เดิมชื่อ วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เป็นบุตรขุนเพ็ญภาษชนารมย์ กับนางมั่น บุญฑีย์กุล (อุบาสิกามั่น ถึงแก่กรรม พ.ศ. 2520) เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ม.ค. 2463 ปีวอก แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ณ สถานีรถไฟปากเพรียว จ.สระบุรี ต่อมาย้ายมาตั้งหลักฐานที่บ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีพี่น้อง 7 คน
ตามประวัตินั้นท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง สมองไม่ดี ไม่ได้รับการส่งเสริมให้เรียนหนังสือ ต้องทำงานบ้าน แต่เป็นงานหนักเกินตัวจึงล้มป่วยเป็นอัมพาต ได้อธิษฐานอยู่ในใจว่า “ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หาย จากอัมพาตได้ จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา” ต่อมามีตาปะขาวตนหนึ่งมาที่บ้านแล้วถามบิดาของท่านว่าในบ้านมีผู้ป่วยหรือไม่ เมื่อได้คำตอบจึงบอกว่าจะรักษาให้ บิดาไม่ขัดข้อง เมื่อพบผู้ป่วยถามถึงคำอธิษฐานแล้วรักษาให้ อัศจรรย์นัก วันรุ่งขึ้นกระดิกตัวได้ ทดลองลุกขึ้นก็ได้ รุ่งเช้าตาปะขาวมาถือบาตรหน้าบ้าน ท่านจึงใส่บาตร เป็นอันว่าหายจากอัมพาตด้วยความอัศจรรย์ จากนั้นอายุ 15 ปี บวชเณร อายุ 21 ปี บวชพระ ได้เดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์กงมาไปในที่ต่างๆ เป็นเวลา 8 ปี ต่อมาพระอาจารย์กงมาพาเดินธุดงค์จาก จ.จันทบุรี ไป จ.สกลนคร เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ได้อุปัฏฐากอยู่ 4 ปี
ศิริธัช เล่าว่า หลวงพ่อวิริยังค์มีพลังจิตและสมาธิสูงมาก สิ่งที่ท่านทำเพื่อให้ โดยมุ่งมั่นให้โลกมีความสุข เริ่มจากให้ครอบครัวเป็นสุข รอบบ้านเป็นสุข และทั่วโลกจะเป็นสุข ผลงานในการเผยแผ่มีมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เปิดสถาบันพลังจิตตานุภาพในประเทศไทยและประเทศแคนาดา ขยายสาขาไปกว่า 130 สาขา และตั้งสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ ให้คนไทยมีความสามารถออกแบบได้ทัดเทียมกับนานาชาติ ขณะนี้ยืนบนขาตนเองได้ หลังจากถูกศิษย์คัดค้านว่าจะไม่ได้อะไรในตอนแรก
เพราะความที่ท่านเกิดมาเพื่อให้ บรรดาศิษย์ทั้งหลายต้องการให้มีอายุยืนนาน จึงไปกราบขอร้องให้ท่านมีอายุถึง 120 ปี ในวันที่ 7 ม.ค.ของทุกปีอันเป็นวันเกิด


