"All Thai Taxi" บริการสายพันธุ์ใหม่ แก้ปัญหาแท็กซี่ไทย

โดย....จักรวาล ส่าเหล่ทู

หลายครั้งที่ผู้โดยสารอย่างๆเราถูกคนขับรถแท็กซี่ปฏิเสธให้บริการด้วยคำกล่าวอ้างต่างๆนาๆเช่น ไปส่งรถ เติมแก๊ส กลัวรถติดบ้าง ในบางครั้งเราก็ถูกปฏิเสธเพียงเพราะเราเป็นคนไทย หรืออาจจะโดนโก่งค่าโดยสารจากการบังคับให้ใช้บริการแบบเหมาจ่ายไม่กดมิเตอร์ นอกจากนี้การใช้บริการแท็กซี่ยามวิกาลเพียงลำพัง ก็อาจจะเป็นภัยเองสำหรับผู้โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะเคยมีกรณีคนขับแท็กซี่ชิงทรัพย์หรือพยายามข่มขืนผู้โดยสารจนเป็นข่าวมากมาย จนเป็นข่าวหน้าหนึ่งหลายครั้งด้วยกัน จนทำให้ภาพลักษณ์ของแท็กซี่ไทยนั้นย่ำแย่ทั้งในสายตาคนในประเทศและชาวต่างชาติ

แต่ปัญหาเหล่านั้นกำลังจะหมดไป เนื่องจากจะมีการเปิดให้บริการแท็กซี่สายพันธุ์ไทยภายใต้ชื่อ “All Thai Taxi”  ซึ่งได้มีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยการร่วมมือระหว่างศูนย์ Smart City Research Center (SCRC) ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง, บริษัท ITS Consultancy จำกัด, นครชัยแอร์ และกรมการขนส่งทางบก ที่ได้คิดค้นพัฒนาระบบแท็กซี่อัจฉริยะ “Smart Taxi Control System” ซึ่งเป็นระบบที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้โดยสารส่วนใหญ่ ที่มีความต้องการในเรื่องของความสะดวกในการใช้บริการ รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

มีระบบอะไรบ้างในแท็กซี่สายพันธุ์ใหม่?

นายเอกชัย สุมาลี ผู้อำนวยการศูนย์ Smart City Research  Center  ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบแท็กซี่ดังกล่าวได้ ระบบที่พัฒนาขึ้นได้แบ่งเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือ

1.Vehicle Application เป็นระบบที่สามารถประมวลผลพฤติกรรมการขับรถของพนักงานและดึงข้อมูลตัวรถได้ รวมทั้งสามารถรับคำสั่งส่วนกลางเพื่อบอกให้คนขับไปรับผู้โดยสารตามจุดต่างๆด้วยระบบติดตามยานพาหนะด้วยสัญญาณ จีพีเอส ซึ่งในรถทุกคันจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่คอยบันทึกค่าสถิติเหล่านี้ ซึ่งการทำงานของมันเปรียบได้กับกล่องดำบนเครื่องบินเลยทีเดียว

2.Driver Application โดยคนขับทุกคนจะมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ทางบริษัทิซื้อให้ เพื่อความสะดวกในการใช้แอพพลิเคชั่น ซึ่งมีระบบการเช็คเวลาทำงานของคนขับ และคอยบอกว่าคนขับจะต้องไปรับรถที่จุดไหน เนื่องจาก All Thai Taxi ไม่มีอู่รถเป็นหลักแหล่ง จะวิ่งตลอด 24 ชม.

3.Passenger Application ซึ่งมีเพื่อผู้โดยสารใช้การเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ด้วยการล็อกอินในแอพพลิเคชั่น  และยังสามารถตรวจสอบได้ว่าแท็กซี่ที่ให้บริการเรานั้น มาใกล้ถึงหรือยัง รวมทั้งการแชร์เส้นทางของเราให้กับใครดูก็ได้ในระหว่างที่เรากำลังโดยสาร เพียงนำโค้ดการเดินรถไปแชร์ให้กับอีกเพื่อเปิดดูในแอพพลิเคชั่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีปุ่มฉุกเฉินเอาไว้กดเพื่อขอความช่วยเหลือทันที ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการโดยสาร ซึ่งเมื่อกดแล้วทางส่วนกลางจะสั่งหยุดรถคันนั้น และทำการตรวจสอบทันที โดยแอพพลิเคชั่นสามารถหาโหลดได้ทั้ง แอนดรอยด์ และ ไอโอเอส

4.Back Office System เปรียบได้กับห้องบัญชาการส่วนกลาง ที่รู้ตำแหน่งเส้นทางการวิ่งของแท็กซี่ทุกคัน รับออเดอร์ของผู้โดยสาร ผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ คอลเซ็นเตอร์ พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าจะให้รถคันไหนไปรับผู้โดยสาร ซึ่งทำให้คนขับมีหน้าที่ใส่ใจเพียงแค่การขับขี่ไม่ปลอดภัยเท่านั้น เพราะการตัดสินใจรับผู้โดยสารเป็นหน้าที่ของส่วนกลาง

โดยระบบทั้งหมดนี้ไม่เหมือนแอพพลิเคชั่นแท็กซี่ที่ผ่านมา เพราะของรายอื่นเป็นเพียงแค่บริการเรียกเท่านั้น ไม่ได้มีการจัดการอื่นๆแต่อย่างใด ต่างจากของ All Thai Taxi ที่มีการจัดการระบบทุกอย่าง ทั้งบุคคลากร การรับผู้โดยสาร การดูแลรถยนต์ วิเคราะห์การให้บริการต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นระบบ All in one เลยก็ว่าได้

All Thai Taxi มีความพิเศษอย่างไร

ในส่วนของคนขับ นายเอกชัย ได้เผยว่า คนขับรถของ All Thai Taxi นั้นเป็นพนักงานที่ผ่านการอบรมของ นครชัยแอร์ทั้งหมด ไม่ใช่รถร่วม หรือใช้ระบบสหกรณ์แท็กซี่ทั่วๆไป คือจ่ายอัตราค่าจ้างเป็นเงินเดือน ในส่วนนี้เองทำให้พวกเขาไม่ต้องพะวงถึงเรื่องการทำรอบขับรถ จึงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธผู้โดยสารอีกต่อไป เพียงแค่ความใส่ใจกับการให้บริการก็พอ อีกทั้งยังมีเงินโบนัสเพิ่มให้ด้วยหากมีคะแนนพฤติกรรมการให้บริการที่ดี โดยจะตัดสินจากคะแนนที่ผู้โดยสารเป็นคนให้ผ่าน แอพพลิเคชั่น เมื่อถึงจุดหมาย กับการประเมินวิเคราะห์จากกล่องดำถึงลักษณะการขับรถซึ่งมีความละเอียดสูงถึงขั้นบอกได้ว่า คนขับกระชากไปหรือเปล่า หรือขับเร็วเกินกว่าที่กำหนด โดยจะมีการสรุปในทุกๆเดือนว่าคนขับแต่ละคนมีเรตคะแนนเท่าไหร่ หากต่ำกว่ามาตรฐานก็จะมีการอบรมเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาการให้บริการต่อไป

ในด้านรถในโครงการนั้น เป็นรถ โตโยต้า พริอุส ไฮบริด ที่มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งรถที่ใช้ไม่ได้เติมเชื้อเพลิงด้วยแก๊ส เนื่องจากการเติมแก๊สใช้เวลานานมาก ทำให้รอบในการวิ่งมีน้อยลง และยังมีการติดกล้องในตัวรถเพื่อบันทึกเหตุการณ์ในระหว่างการให้บริการด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าอยู่ๆจะดูภาพในรถผ่าน แอพพลิเคชั่นได้ และทางส่วนกลางเองก็ดูภาพในรถไม่ได้เช่นกัน นอกจากจะเกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับการเรียนจากผู้โดยสารและภาครัฐจึงจะให้ดูได้ โดยวิดีโอนั้นจะถูกบันทึกลงกล่องดำที่ติดอยู่กับรถทุกคันนั่นเอง

“หากมีผู้โดยสารลืมของไว้บนรถยนต์ ก็สามารถตามได้ เพราะการให้บริการแท็กซี่มีมาตรฐานเดียวกับ นครชัยแอร์ อีกทั้งด้วยระบบที่วางไว้เป็นอย่างดี ทำให้ส่วนกลางรู้ว่าผู้โดยสารคนไหนไปกับคนขับรถคนใด ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้โดยสารทุกคนจะได้รับความปลอดภัยทั้งในชีวิต และทรัพย์สินอย่างแน่นอนซึ่งเป็นจุดสำคัญของ All Thai Taxi"

แม้ว่าโดยรวมแล้วระบบการจัดการของ All Thai Taxi จะต้องใช้สัญญาณ 3 จี หากในกรณีที่เครือข่ายล่ม หรือสัญญาณขาดหาย ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะรถแต่ละคันมี คอมพิวเตอร์เครื่องเล็กๆหรือกล่องดำ คอยประมวลผลอยู่แล้วว่าให้ไปพักรถที่ไหน และเชื่อมต่อสัญญาณกลับสู่ส่วนกลางเองในกรณีที่ 3จี กลับมาใช้ได้ อีกทั้งยังมีทีมฉุกเฉินที่คอยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆด้วย

มาตรฐานใหม่ของการให้บริการแท็กซี่ กับราคาที่ไม่เปลี่ยนไป

อัตราค่าบริการของ All Thai Taxi นั้นอ้างอิงจากมาตรฐานมิเตอร์ธรรมดาทั่วไป คือเริ่มที่ 35 บาท ถ้าหากมีการเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น ก็จะมีการคิดค่าธรรมเนียม 20 บาท ตามข้อบังคับของกรมขนส่งทางบก แต่ด้วยค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นนั้น นายเอกชัย บอกว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้โดยสารแน่ๆ เมื่อแลกกับการบริการที่ดี และความปลอดภัยที่สูง และในการจ่ายค่าโดยสารนั้นมีให้เลือกจ่ายทั้งเงินสด และผ่านบัตร เอทีเอ็ม เดบิต , บัตรเครดิต

“การยกระดับการให้บริการครั้งนี้ เป็นการตอบโจทย์วิกฤตปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่าย และตัดข้อกังวลของผู้ใช้บริการในบางเรื่อง แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่ง่ายก็ตาม แม้ไม่ได้หวังว่าการริเริ่มโครงการนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการให้บริการแท็กซี่ไปโดยปริยาย แต่ก็อาจจะเป็นการจุดประกายทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นเห็นถึงความเป็นไปได้ว่าทำแบบนี้ก็อยู่ได้ เพื่อการให้บริการที่ดีขึ้น โดยรวมแล้วโครงการนี้เป็นสินค้าใหม่ที่ตลาดต้องการ และช่วยให้ประชาชนที่ตัวเลือกในการใช้บริการแท็กซี่เพิ่มขึ้น จ่ายเท่าเดิมแต่ได้บริการที่ดีกว่า”นายเอกชัยกล่าว

การเรียกใช้บริการนั้นก็มีอยู่ 3 ทางด้วยกันคือ

1. ผ่านแอพพลิเคชั่นของ All Thai Taxi ที่มีให้โหลดใน กูเกิลเพลย์ และ แอพสโตร์

2. ผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1624

3. โบกเรียกได้ทันทีหากมีรถที่ว่างวิ่งผ่าน ซึ่งวิธีนี้จะไม่เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท

ทั้งนี้ All Thai Taxi จะเริ่มมีการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีรถบริการให้ถึง 500 ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ