รักชาติต้องเสียภาษี

ปัญหาการเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลงเรื่อยๆ จนอาจจะเป็นปัญหาระยะยาว เพราะรายจ่ายของประเทศคงที่หรือมีแต่จะเพิ่มขึ้น เริ่มจะเป็นกับดักการคลังที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะจะไม่มีเงินมาใช้พัฒนาประเทศในอนาคต

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า ประเทศไทยเก็บภาษีทรัพย์สินได้ไม่ถึง 20% ต่ำกว่าของประเทศอื่นๆ มาก ดังนั้นจึงต้องปฏิรูปภาษีเพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งแก้ไขกฎหมายภาษี และออกกฎหมายภาษีใหม่

การเพิ่มรายได้จากภาษีของรัฐให้ได้มากขึ้นนั้น การใช้วิธีการขึ้นภาษีไม่ว่าจะเป็นภาษีอะไรก็ตาม จะส่งผลกระทบชิ่งต่อภาวะเศรษฐกิจทั้งหมด สิ่งที่จะทำให้รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนคือการขยายฐานภาษี ไม่ใช่การขึ้นภาษี และวิธีการขยายฐานภาษีของรัฐบาลต้องใช้ให้คนที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี หรือหลีกเลี่ยงภาษี เข้ามาอยู่ในระบบให้ได้

หนึ่งในข้อเสนอที่ภาคเอกชนเสนอขึ้นมา ก็คือ การนิรโทษกรรมภาษีให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี ที่คลังยินดีที่จะรับไปพิจารณา แต่มีข้อแม้ว่า จะนิรโทษกรรมให้กับผู้ประกอบการที่พยายามจะเสียภาษี แต่เพราะขาดทุนจากภาวะเศรษฐกิจโดยแท้จริง ไม่ทำภาษี 2 เล่ม ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา คือ จะดูประวัติการทำธุรกิจด้วย ไม่ได้นิรโทษกรรมแบบเหวี่ยงแห เพราะคนที่ไม่อยากเสียภาษีก็จะหาวิธีการเลี่ยงภาษีตลอดไปอยู่ดี

การนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มรายได้ แต่ไม่สามารถเพิ่มฐานภาษีได้มากเท่าไหร่ เหมือนไปเพิ่มภาษีกับปลาซิวปลาสร้อย รัฐบาลจะต้องสร้างค่านิยมเรื่องการเสียภาษีให้กับทุกๆ คน โดยเฉพาะนักธุรกิจ ที่เห็นว่าใครที่เสียภาษีถูกต้องเป็นคนโง่ ใครเลี่ยงภาษีได้มากคนนั้นเก่ง ซึ่งเป็นค่านิยมทำลายชาติ เห็นแก่ตัว และทำให้เกิดการเลียนแบบ

หากประเทศไหนมีคนในชาติที่คิดถึงแต่ตัวเอง กอบโกยและคิดว่าการเสียภาษีเป็นเรื่องโง่ ประเทศนั้นไม่มีวันที่จะเจริญไปได้ และไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน และจะเกิดปัญหาสังคมให้ต้องแก้ไขตลอดเวลา

การกระจายทรัพยากรที่เป็นธรรมจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างคนจนและคนรวยได้ฉันใด การเสียภาษีอย่างถูกต้องจะช่วยให้รัฐบาลมีเงินไปพัฒนาประเทศได้มากยิ่งขึ้นฉันนั้น

อย่างไรก็ดี ต้องมองไปที่สาเหตุสำคัญของการที่คนไม่อยากเสียภาษี ก็เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนำเอาภาษีของส่วนรวมไปใช้อย่างไร้ประสิทธิภาพ เพื่อหวังคะแนนเสียงทางการเมือง ทำให้คนเสียภาษีเบื่อหน่าย ไม่รู้จะเสียภาษีไปเพื่ออะไร หากจะแก้ปัญหาที่ค่านิยมของผู้เสียภาษี ก็ต้องแก้ไขพฤติกรรมของรัฐบาลหรือหน่วยงานราชการที่ใช้ภาษี ให้ตระหนักว่าเงินของชาตินั้นมีจำกัดต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมือนเป็นเงินของเราเอง

การที่รัฐบาลมุ่งไปที่การขยายฐานภาษีมากกว่าการขึ้นอัตราภาษีนั้นถูกต้องแล้ว และควรจะเปลี่ยนค่านิยมให้รังเกียจเลี่ยงเสียภาษี เพราะรับเป็นการคอร์รัปชั่นประเภทหนึ่ง