posttoday

'ภท.-ทหาร' ถูกหวย มาร์คไม่อยู่ได้งบหมื่นล้าน

23 กันยายน 2552

โดย...ทีมข่าวการเมือง

โดย...ทีมข่าวการเมือง

บรรยากาศทางการเมืองช่วงนี้ช่างเป็นใจให้กับพรรคภูมิใจไทยเหลือเกิน เพราะคล้อยหลังเนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคตัวจริง หลุดพ้นคดีทุจริตกล้ายาง ปรากฏว่ารัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยยิ้มถ้วนหน้าเช่นเดียวกัน เมื่อชงเรื่องสำคัญเข้าที่ประชุมครม. ได้รับการอนุมัติแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย

ถ้าจะกล่าวว่าคดีทุจริตกล้ายางทำให้เนวินและคณะรอดยกเข่ง สำหรับการประชุมครม.วานนี้ วาระที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยเสนอ ก็ได้รับอนุมัติผ่านยกล็อต และเป็นล็อตใหญ่เสียด้วย

เริ่มจากการแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ หลังจากยื้อกันมาถึง 4 ครั้ง หนนี้เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนยรรยง พวงราช แม้จะมองได้ว่า เหตุที่ยรรยงได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดพาณิชย์ เพราะอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีติดราชการต่างประเทศ จึงทำให้พรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ สบช่องเสนอผ่านสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรีเห็นชอบ

แม้เอกสารเข้าครม. ปรากฏว่าอภิสิทธิ์เป็นผู้ลงนามอนุมัติเห็นชอบให้เสนอเข้าครม. ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ย. แต่เมื่อสุเทพ เป็นประธานการประชุมครม. ก็ถือว่าสุเทพมีส่วนผลักดัน
รายการแรกยังไม่เท่าไหร่ แต่วาระถัดจากนั้นบิ๊กล็อตขนานแท้ เมื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เสนอขอก่อหนี้ผูกพันจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ 5 โครงการรวด สิริรวม 1.1 หมื่นล้านบาท วาระทั้งหมด สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นผู้เกษียนหนังสือเข้าครม. โดยที่ประชุมใช้เวลาอนุมัติโครงการทั้งหมดเพียง 20 นาที ไม่มีเสียงคัดค้านจากที่ประชุมแต่อย่างใด

ประกอบด้วยขอก่อหนี้ผูกพันข้ามปี โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการปราบเรือดำน้ำเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ SEA HAWK โดยจัดหาและติดตั้งระบบโซนาร์แบบชักหย่อน ซึ่งบริษัท ล็อกซเล่ย์ ได้รับการคัดเลือกตั้งงบผูกพัน 3 ปี วงเงิน 989 ล้านบาท  2.โครงการเรือตรวจการณ์ใกล้ชายฝั่งจำนวน 3 ลำ งบประมาณ 1,603 ล้านบาท แบ่งเป็นจ้างจัดสร้าง 2 ลำ โดยบริษัทมาร์รีน ซัน และกองทัพเรือจัดซื้ออุปกรณ์ครุภัณฑ์จัดสร้างเองอีก 1 ลำ

3.โครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธ ชนิดรถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น FST จากบริษัท อิทธิพรอิมปอร์ต ผู้แทนจำหน่ายโดยตรงของบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น งบประมาณ 4,995 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณ ปี 2552 จำนวน 1,000 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 1,000 ล้านบาท ปี 2554 จำนวน 1,000 ล้านบาท และปี 2555 จำนวน 1,490 ล้านบาท 4.โครงการจัดหายานพาหนะและเครื่องจักรกลทดแทน จำนวน 14 รายการ จากบริษัท สกาเวีย  บริษัท รอยัล ซิก และบริษัท เมก้าลิงค์ ผูกพัน 4 ปี ตั้งแต่ปีงบ 2552-2555 งบประมาณ 3,049 ล้านบาท

5.ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มิลลิเมตร ระยะที่ 3 จำนวน 14,264 กระบอก วงเงิน 976 ล้านบาท ที่น่าสนใจโครงการดังกล่าวเคยมีการเสนอให้จัดซื้อแบบจีทูจี หรือรัฐต่อรัฐ แต่มาครั้งนี้ขอปรับปรุงมติครม.เปลี่ยนจากจีทูจีเป็นการจัดซื้อวิธีพิเศษผ่านบริษัท Israel Weapon Industries Z IWI Ltd.
ทั้งนี้ มีการอ้างว่ามติครม. ที่เคยให้กองทัพบกซื้อแบบจีทูจีเมื่อ วันที่ 9 ก.ย. 2551 แต่กองทัพบกไม่สามารถลงนามได้ เนื่องจากเจอเงื่อนไขการปฏิบัติตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ไม่มีความชัดเจนเรื่องขอบเขตการปฏิบัติ จึงขอมติครม.เปลี่ยนแปลงซื้อแบบวิธีพิเศษผ่านบริษัทเอกชนโดยตรง

ขณะเดียวกันครม.เห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงกลาโหม ผ่านร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ออกตามความในพ.ร.บ.โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. 2550
นอกจากเหล่าทัพได้ช็อปอาวุธยุทโธปกรณ์ถ้วนหน้า กระทรวงคมนาคมภายใต้การดูแลของโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ก็ฉลุย เมื่อครม.อนุมัติให้กู้เงินระยะยาว 4,210 ล้านบาท ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงินครั้งนี้ อ้างว่าเพื่อให้กระแสเงินสดเพียงพอในการใช้จ่ายดำเนินการและลงทุน 

ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้างด้วยเม็ดเงินหลายหมื่นล้าน มีคำถามว่าหากอภิสิทธิ์นั่งเป็นประธานประชุมครม. ไม่ติดภารกิจต่างประเทศจะผ่านฉลุยเช่นนี้หรือไม่ เพราะตามสไตล์อภิสิทธิ์จะสวมบทเป็นนักเอกซเรย์ประจำครม. ชอบสร้างปรากฏการณ์เบรกโครงการสำคัญให้เห็นเสมอ  แต่เมื่อประธานหัวโต๊ะเป็นชื่อสุเทพ ทำให้อะไรต่อมิอะไรก็ดูดีไปหมด

งานนี้เรียกได้ว่า มาร์คไม่อยู่ ภูมิใจไทยร่าเริง