ขึ้นค่าขนส่งทางเรือ ภาระบนบ่ารมว.พาณิชย์
การประกาศขึ้นค่าภาระหน้าท่า (Terminal Handling Charge : THC) ของสายการเดินเรือรายใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ สายเรือ SITC, Hanjin, Yang Ming, OOCL, Evergreen, China Shipping และ Wan Hai สำหรับตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าเป็นการทั่วไปตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 เป็นต้นมา ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ในอุตสาหกรรมการส่งออกของไทย เนื่องจากทำให้ต้นทุนของผู้ส่งออกเพิ่มขึ้นพรวดพราด
การประกาศขึ้นค่าภาระหน้าท่า (Terminal Handling Charge : THC) ของสายการเดินเรือรายใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ สายเรือ SITC, Hanjin, Yang Ming, OOCL, Evergreen, China Shipping และ Wan Hai สำหรับตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าเป็นการทั่วไปตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 เป็นต้นมา ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ในอุตสาหกรรมการส่งออกของไทย เนื่องจากทำให้ต้นทุนของผู้ส่งออกเพิ่มขึ้นพรวดพราด
เนื่องจากอัตราที่เรียกเก็บใหม่นั้นสูงกว่าเดิม 69-74% โดยตู้ขนาด 20 ฟุต ขยับขึ้นจากตู้ละ 2,600 บาท เป็น 4,400 บาท ตู้ขนาด 40 ฟุต ขึ้นจาก 3,900 บาท มาเก็บในอัตรา 6,800 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการปรับขึ้นค่าใช้จ่ายสำหรับตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิขนาด 20 ฟุต ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4,650-5,250 บาท จากเดิม 3,200 บาท ตู้ควบคุมอุณหภูมิขนาด 40 ฟุต ปรับขึ้นเป็น 8,100 บาท จาก 5,000 บาท
ขณะที่สายเรือในกลุ่มIntra-Asia Discussion Agreement (IADA) ที่ให้บริการในเส้นทางภายในเอเชียกว่า 40 ราย ก็ได้แจ้งข้อมูลว่าจะปรับขึ้นค่า THC เป็น 7,812 บาท สำหรับตู้ 20 ฟุต และ 12,285 ต่อตู้ 40 ฟุต
ข้อมูลในทางลึกของสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุว่า การขึ้นค่าใช้จ่ายดังกล่าวทำให้สมาชิกผู้ส่งออกทางเรือร่วม 2,300 ราย จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นทันทีปีละ 7,050 ล้านบาท
และหากรวม “ค่า Document Fee ค่า Seal ตู้คอนเทนเนอร์ ค่า Lift on/off Charge ค่า Administration Fee และค่า Reefer Monitoring Fee” จะทำให้มีค่า
ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับการขนส่งกว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท
ต้นทุนค่าตู้คอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้นย่อมกระทบต่อตัวเลขการส่งออกของไทยโดยปริยาย เพราะขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาของผู้ส่งออกลดลง บรรดาผู้ส่งออกจึงออกมาเรียกร้องให้กรมการค้าภายในดูแลในเรื่องต้นทุนที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ขอให้สายเดินเรือตรึงราคาไปก่อน 60 วัน และสิ้นสุดระยะเวลาที่ตรึงเวลาในสิ้นเดือน ก.พ. 2558
ในขณะที่กรมการค้าภายในยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้นั้น บริษัท NYK Line (Thailand) Co., Ltd. ได้ประกาศปรับเพิ่มขึ้นค่า THC ในเส้นทางยุโรป เมดิเตอร์เรเนียนทะเลดำขึ้นมาเป็น 4,500 บาท สำหรับตู้ 20 ฟุต และ 7,100 บาท สำหรับตู้ 40 ฟุต
กระทั่งล่าสุด สันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เรียกประชุมคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายเดินเรือ สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า จะให้มีการปรับขึ้นค่าภาระหน้าท่าของตู้ 20 ฟุต จาก 2,600 บาท เป็น 2,820 บาท และขนาดตู้ 40 ฟุต จาก 3,900 บาท เป็น 4,449 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย. 2558 เป็นการชั่วคราว
แต่จะมีผลเฉพาะเส้นทางเรือเอเชียเท่านั้น ส่วนสายเรืออเมริกาและยุโรปใช้อัตราเดิม
“แม้จะขยับแล้วแต่บริษัทเดินเรือยังไม่พอใจในอัตราที่กำหนดให้เก็บเพิ่มขึ้น และขอเวลาในการแจ้งบริษัทต้นสังกัดที่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ และจะแจ้งกลับมาภายใน 1 สัปดาห์ และในเดือน มี.ค. 2558 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน นำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม โดยอาจให้มีการนำประเด็นกฎหมายการแข่งขันทางการค้ามาใช้ในกรณีดังกล่าว”สันติชัย ชี้แจง
อย่างไรก็ตาม นพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้ปรับขึ้นราคาค่าภาระหน้าท่า และสภาผู้ส่งออกฯ จะแถลงจุดยืนอีกครั้งในวันที่ 2 มี.ค.นี้
“สายเดินเรือไม่มีเหตุผลที่จะปรับขึ้นราคา สภาผู้ส่งออกฯ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 2,300 ราย จะไม่ยอมรับอัตราดังกล่าว และขอให้กรมการค้าภายในแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรมและควรนำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อ รมว.พาณิชย์ เพื่อชี้ขาด” นพพร ยืนยัน
ข้อพิพาทนี้ มิใช่ทำได้แค่อาศัยเพียงความร่วมมือเสียแล้ว
สายสืบรายงานว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกได้ยื่นเงื่อนไขไปให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาใน 3 เรื่อง
1.ต้องทำในทันที – ขอให้ออกประกาศตามอำนาจใน พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ควบคุมค่า THC ในทุกเส้นทางไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ
2.ภายใน 6 เดือน – ขอให้เร่งจัดทำโครงสร้างต้นทุนค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของต้นทุนที่เรียกเก็บ
3.ภายใน 1 ปี – ขอให้ใช้อำนาจใน พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ. แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 เพื่อให้มีกลไกในการเจรจาและพิจารณาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาการขึ้นค่าภาระหน้าท่าจึงท้าทายต่อการตัดสินใจของ พล.อ.ฉัตรชัย ไม่น้อย...


