สธ.เร่งตรวจแมลงพิลึก

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้นำแมลงที่เติบโตอยู่ในผิวหนังของชายชาว จ.ลำปาง ไปตรวจสอบที่กองกีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2 วันรู้ผล

นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุชนิดของแมลงและปัจจัยการเกิด ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า อาจเกิดจากผิวหนังเป็นแผลถลอก ทำให้มีแมลงเข้ามากัดกินแผล เลือด และน้ำเหลือง จากนั้นมีการฝังตัว วางไข่และฟักตัว หรืออาจเกิดจากภูมิคุ้มกันของผิวหนังมีความผิดปกติ แต่ยืนยันว่าเป็นโรคที่ไม่ติดต่อ

นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ลักษณะของแมลงที่พบเป็นแมลงมีปีก หรือเรียกว่าเห็บเสี้ยน พบได้ทั่วไปในป่าและสามารถวางไข่บริเวณผิวหนังของคนได้ ซึ่งชายชาว จ.ลำปาง เคยทำงานเก็บมูลค้างคาวในป่า เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรค

นางพรรณสิริ กล่าวว่า แมลงชนิดดังกล่าวนอกจากพบที่ จ.ลำปางแล้ว ยังมีการแพร่กระจายอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก อีกด้วย

ด้าน นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคที่เกิดขึ้นอาจเป็นโรคหนอนไชผิว หรือ Maggots ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากแมลงไชจากผิวหนัง เป็นกลุ่มแมลงวันดูดเลือด พบได้ในแอฟริกาใต้และอเมริกาใต้ โดยจะเข้าสู่ผิวหนังทางบาดแผลและไข่ทิ้งไว้ จากนั้นจะฟักตัวเป็นหนอนหรือแมลง

นพ.เรวัต กล่าวว่า คนในท้องถิ่นจะรักษาด้วยการใช้น้ำส้มสายชูหรือใบยาสูบหมักในน้ำแล้วนำมาถู เพื่อให้ไข่แตกหรือตัวของแมลงตาย