หนุ่มยะลาประท้วงถอยแคมรี่2เดือนซ่อม7ครั้ง

หนุ่มนักธุรกิจติดสติ๊กเกอร์ประท้วงถอยรถแคมรี่ป้ายแดง2เดือนซ่อม7ครั้ง ขณะที่โตโยต้าตรวจสภาพรถแล้วยืนยันปกติ ไม่สามารถรับคืนได้

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.นายกีย์รติกาญจน์ ศรีหนองคู นักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ท อ.เบตง จ.ยะลา นำสติ๊กเกอร์ติดรถเก๋งโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีขาวมุข  ป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ว 9229 กรุงเทพมหานคร รอบคันเขียนข้อความประท้วงเรียกร้องให้ทางบริษัทตัวแทนจำหน่ายรายหนึ่งในจ.สงขลารับผิดชอบด้วยการรับรถคืน

นายกีย์รติกาญจน์ กล่าวว่า หลังจากที่ซื้อมา 2 เดือน ต้องเข้าศูนย์บริการซ่อมถึง 7 ครั้ง จากปัญหาพวงมาลัยมีเสียงดังเวลาเลี้ยว ระบบล็อคทำงานได้บ้างไม่ได้บ้าง  และปุ่มสตาร์ทลากยาวเวลาเครื่องยนต์ร้อน และไม่สามารถแก้ไขได้ แต่การเจรจาในชั้นศาลแขวงยังไม่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากทางบริษัทตัวแทนจำหน่ายไม่รับรถคืน

นายกีย์รติกาญจน์ กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้รถยังมีปัญหาพวงมาลัยมีเสียงดังเวลาเลี้ยว ระบบเซ็นทรัลล็อคทำงานได้บ้างไม่ได้บ้างเหมือนเดิม และยังไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิมได้ แม้จะเข้าตรวจเช็คและซ่อมมาแล้วถึง7ครั้ง  แต่ตัวแทนบริษัทกลับออกมายืนยันว่ารถยนต์สภาพปกติทุกอย่าง พร้อมกับนำรถโตโยต้าแคมรี่มาสาธิตระบบต่างๆที่มีปัญหา แต่รถที่นำมาสาธิตนั้นเป็นรุ่นไฮบริดซึ่งเป็นคนละรุ่น

ด้านบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ได้มอบหมายให้ นายนฤดล นวลงาม ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานหลังการจำหน่าย  ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาของรถและการตรวจเช็คสภาพตามที่ลูกค้าได้ร้องเรียน รวมทั้งสาธิตระบบการทำงานของรถยนต์รุ่นนี้ตามสภาพการใช้งานจริง โดยยืนยันว่าจากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญทั้งของศูนย์บริการและบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ด้วยเครื่อง วิเคราะห์ระบบเครื่องยนต์อย่างละเอียด โดยมีเจ้าหน้าที่ของสมาคมผู้บริโภคสงขลา มาเป็นคนกลางในการตรวจสอบ พบว่ารถมีสภาพปกติทุกอย่าง

อย่างไรก็ตามส่วนพวงมาลัยที่มีเสียงดังมีสาเหตุมาจากยางกันฝุ่นซึ่งได้แก้ไขแล้ว ส่วนระบบสตาร์ทที่ลากยาวพบว่าเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวซึ่งมีการตรวจเช็คทั้งระบบน้ำมันและความร้อนที่น่าจะเป็นสาเหตุแต่ก็ไม่มีปัญหา

"หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะรับผิดชอบตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพ3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน แต่ทางบริษัทไม่สามารถรับเงื่อนไขการส่งมอบรถคืนจากลูกค้าได้"บริษัทตัวแทนจำหน่ายระบุ

ทั้งนี้บริษัทได้มีการชี้แจงในรายละเอียดทั้งหมดจนลูกค้าเข้าใจแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่มั่นใจ และต้องการที่จะส่งรถคืนพร้อมกับยื่นเรื่องฟ้องศาลแขวงสงขลา ซึ่งกระบวนการไกล่เกลี่ยครั้งแรกจึงยังไม่สามารถตกลงกันได้