posttoday

"แท็กซี่คันใหญ่" อยากนั่งสบายต้องจ่ายเพิ่ม?

22 มกราคม 2558

"แท็กซี่ อินโนวา" คันใหญ่จุใจ รองรับคนได้สะดวก บรรทุกสัมภาระก็สบาย แต่เหตุไฉนราคาจึงแพงกว่าแท็กซี่ปกติ?

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

คล้อยหลังจากที่สมาคมแท็กซี่เพื่อไทยสุวรรณภูมิออกมาเสนอแนวคิดขอเรียกเก็บค่าระวางสัมภาระสำหรับแท็กซี่ อินโนวา หรือแท็กซี่คันใหญ่ โดยอ้างเหตุผลว่าผู้โดยสารกว่า 99 % ที่ใช้บริการ ล้วนมากันเป็นหมู่คณะ แถมยังหิ้วกระเป๋าเดินทางมาด้วยหลายใบ ทำให้รถต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่ม สูญเสียเชื้อเพลิงมากกว่าแท็กซี่ทั่วไปหลายเท่า ขณะเดียวกันหลายคันยังใช้วิธีเหมาจ่ายแทนการกดมิเตอร์ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกระหึ่มจากสังคม

เมื่อระบบการจัดการยังไร้บรรทัดฐานชัดเจน อาจถึงเวลาที่จะต้องจัดระเบียบอย่างจริงจังอีกครั้ง

"แท็กซี่คันใหญ่"มาแรง

นาทีนี้เรียกได้ว่า "แท็กซี่ อินโนวา" กำลังได้รับความนิยมสุดขีด เนื่องจากเป็นรถเอนกประสงค์คันใหญ่ ภายในกว้างขวางจุได้ถึง 7 ที่นั่ง แถมยังบรรทุกสัมภาระได้อย่างสะดวกสบายไร้กังวล

คุ้ม บางเทศ โชเฟอร์แท็กซี่ไซส์บิ๊ก บอกว่าการตัดสินใจซื้อรถโตโยต้า อินโนวาป้ายแดงมาดัดแปลงเป็นแท็กซี่มิเตอร์ ติดแร็คหลังคา ติดแก๊สLPG รวมกว่า 1.2 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

"เดี๋ยวนี้แท็กซี่คันใหญ่มาแรงครับ ลูกค้าชอบนั่งกัน เพราะมันกว้าง นั่งสบาย รองรับทั้งคนทั้งสัมภาระได้มากกว่าแท็กซี่ทั่วไปหลายเท่า รถแท็กซี่แวนจุคนได้ 7 ที่นั่งต่างจากแท็กซี่ทั่วไปได้แค่ 4-5 ที่นั่ง ขนาดเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ขณะที่รถแท็กซี่เก๋ง 1,600 ซีซี ส่วนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงถ้าเป็นก๊าซ LPG วิ่ง 250 กิโลเมตรอยู่ที่ 500-550 บาทมากกว่าแท็กซี่ไม่เกิน 100 บาท ขึ้นอยู่กับใครวิ่งช้าวิ่งเร็ว" 

ลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่มักเดินทางไปกลับระหว่างสนามบิน-โรงแรม และผู้โดยสารที่ว่าจ้างไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ

"ลูกค้าที่เลือกใช้บริการแท็กซี่คันใหญ่มักจะเป็นลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม มีกระเป๋าเดินทางเยอะๆ เช่น พวกแขกอินเดียที่ขนผ้าจากตลาดโบ๊เบ๊กลับไปขายที่ประเทศเขา หรือฝรั่งที่มากันเป็นครอบครัว ขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ทีนึง 5-7 ใบ พวกนี้เขาต้องการรถใหญ่ๆที่บรรรทุกเดียวหมด ดีกว่าต้องมาเรียกแท็กซี่คันเล็ก 2 คัน ต้องเสียค่ารถค่าทางด่วนสองต่อ ที่สำคัญแท็กซี่เล็กไม่สามารถรองรับสัมภาระได้มากกว่า 3 ใบ เพราะติดถังแก๊สท้ายรถ รถโช็คต่ำ นั่ง 5 คนก็ติดล้อแล้ว บางคนถึงขั้นเอาเชือกรัดสัมภาระอย่างทุลักทุเล แต่แท็กซี่คันใหญ่เอาใส่ท้ายรถเอาขึ้นหลังคา วิ่งฉิวสบายเลย"

โชเฟอร์รายนี้บอกว่า ไม่หนักใจที่ต้องเจอกับลูกค้าที่มากันเป็นหมู่คณะ ขนสัมภาระเกะกะรุงรัง เพราะตัดสินใจออกรถคันใหญ่มาเพื่อจุดประสงค์นี้อยู่แล้ว

"แท็กซี่คันใหญ่" อยากนั่งสบายต้องจ่ายเพิ่ม?

คนเยอะสัมภาระเยอะ=ราคาพิเศษ?

หลังจากที่สมาคมแท็กซี่เพื่อไทยสุวรรณภูมิเสนอให้มีการคิดค่าระวางสัมภาระเหมือนเครื่องบิน โดยอ้างเหตุผลว่าผู้โดยสารเยอะ สัมภาระเยอะ ทำให้รถต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่ม สูญเสียเชื้อเพลิงมากกว่าเดิม ดังนั้นการคิดราคาตามมิเตอร์เหมือนแท็กซี่ทั่วไปจึงไม่คุ้มทุน

ศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่เพื่อไทยสุวรรณภูมิ บอกว่า การคิดค่าระวางกระเป๋าเพิ่ม เฉลี่ยแล้วกระเป๋า 3-4 ใบ คิดเป็นเงินเพิ่มประมาณ 90 บาท รวมค่าโดยสาร ค่าบัตรคิวเรียกรถ ค่าทางด่วน ค่าระวางกระเป๋าแล้ว เดินทางครั้งหนึ่งจะไม่เกิน 500 กว่าบาทด้วยซ้ำ

ทว่า คุ้ม โชเฟอร์แท็กซี่รายเดิม ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการเก็บเงินค่าสัมภาระผู้โดยสาร

"ลูกค้าเดินทางไกลมากว่า 17-18 ชั่วโมง เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ก็อยากจะรีบๆเข้าที่พัก ยังต้องมานั่งชั่งน้ำหนักแบบรถทัวร์ แบบเครื่องบินอีกเหรอ"

ในส่วนกรณีที่รถแท็กซี่แวนประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองที่มักใช้วิธีคิดราคาแบบ "เหมาจ่าย"แทน"กดมิเตอร์" รวมถึงการขอบวกเพิ่มเงินพิเศษนิดๆหน่อยๆสำหรับกลุ่มที่มีสัมภาระเยอะ กำลังสร้างกระแสวิพากวิจารณ์เป็นอย่างมาก

โชเฟอร์แท็กซี่ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรายหนึ่ง มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการที่โชเฟอร์ไปตกลงกับเจ้าหน้าที่เรียกรถแท็กซี่ประจำสนามบินว่าสัมภาระเยอะ คนเยอะ ขอคิดแบบราคาเหมาจ่าย 500-700 แทนการกดมิเตอร์ เจ้าหน้าที่ก็เห็นใจ ประกอบกับผู้โดยสารยินยอมด้วย ทั้งหมดจึงเป็นช่องโหว่ให้การคิดราคาค่าโดยสารที่ไม่เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

"จริงๆตามกฎของกรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ว่ารถแท็กซี่ทุกคันไม่ว่าจะรถใหญ่รถเล็กต้องกดมิเตอร์ คิดเงินตามระยะทาง แต่คนไม่ค่อยปฏิบัติตาม มีการคิดราคาแบบเหมาจ่ายกันมานานแล้ว จนมามีปัญหาเรื่องสัมภาระนี่แหละสังคมถึงได้รับรู้ ข้อเสนอแนะของผมคือ ควรจัดระเบียบใหม่ โดยแยกประเภทระหว่างรถเล็กกับรถใหญ่ไปเลยว่าค่าโดยสาร ค่าสัมภาระควรมีราคามาตรฐานอยู่ที่เท่าไหร่ คนอยากนั่งแท็กซี่แวนเพื่อสะดวกสบาย ขนสัมภาระได้เยอะๆก็ต้องจ่ายเพิ่ม"

ไสว บุตรพรม โชเฟอร์แท็กซี่ อินโนวา อธิบายให้ฟังว่าปัจจุบันรถแท็กซี่คันใหญ่จะมีจุดประจำคือ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สถานที่ขนส่งต่างๆ และตามโรงแรมทั่วกรุงเทพฯ

"ปกติรถแท็กซี่คันใหญ่ไม่ค่อยวิ่งรับผู้โดยสารทั่วไปนะ เพราะมีลูกค้าประจำโทรมาตลอด ทั้งโรงแรมเรียกให้ไปส่งลูกค้าชาวต่างชาติที่สนามบิน ใช้วิธีเหมาจ่าย 500 -700 บาท อีกกลุ่มคือคนไทยที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดก็ต้องคิดราคาตามระยะทาง ส่วนผู้โดยสารข้างทางก็กดมิเตอร์ตามปกติ แต่ถ้ามาเป็นกลุ่ม หรือมีสัมภาระเยอะ เราจะบอกก่อนว่าขอบวกเพิ่มพิเศษสัก 50-100 บาทนะ ซึ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"

"แท็กซี่คันใหญ่" อยากนั่งสบายต้องจ่ายเพิ่ม?

แยกเกรดรถแท็กซี่ธรรมดา-พรีเมียม

ถึงบรรทัดนี้ มีความคืบหน้าที่น่าสนใจจากหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลปัญหาแท็กซี่โดยตรง

จิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า กรมการขนส่งทางบกพร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอของแท็กซี่ในการเรียกเก็บเพิ่มค่าสัมภาระสำหรับรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ หรือ แท็กซี่ อินโนวา 

"แนวทางที่เป็นไปได้คือ การแยกประเภทหรือเกรดรถแท็กซี่มิเตอร์ และคิดอัตราค่าโดยสารตามการจัดเกรดรถ เช่น รถแท็กซี่ธรรมดา กับ รถแท็กซี่พรีเมี่ยม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการ แต่ก็ต้องมีการศึกษาโดยละเอียด ก่อนออกประกาศเป็นกฎกระทรวง และบังคับใช้กับสถานีขนส่งอื่นๆด้วย เพื่อความเป็นธรรมต่อแท็กซี่มิเตอร์ทั้งระบบ"

ดูเหมือนว่าเรื่องวุ่นๆในแวดวงแท็กซี่เมืองไทยยังคงต้องมีการสังคายนากันอีกยาว กว่าจะพลิกฟื้นภาพลักษณ์ที่ดีให้กลับคืนมา แล้วพัฒนาระบบการให้บริการที่ทัดเทียมสู้อารยประเทศได้

"แท็กซี่คันใหญ่" อยากนั่งสบายต้องจ่ายเพิ่ม?

 

ข่าวล่าสุด

คลัง ยันยุบสภาฯไม่สะดุดเศรษฐกิจ ชี้กระทบปี 69 วงจำกัด คาด GDP โต 2%