เมรุตอไม้
ในช่วงปีใหม่ได้ไปทำบุญปลดปล่อยความทุกข์ความโศกที่วัดอรัญญิก หมู่ 7 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
ในช่วงปีใหม่ได้ไปทำบุญปลดปล่อยความทุกข์ความโศกที่วัดอรัญญิก หมู่ 7 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ตั้งจิตอธิษฐานหวังว่าชีวิตจะมีอะไรดีๆ ขึ้นกับ พ.ศ.ที่ลงท้ายด้วยเลขแปด ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าชีวิตจะเดินไปข้างหน้าไม่มีสะดุด...เหมือนปีที่ผ่านมา
หลังจากเสร็จภารกิจทำบุญก็พาครอบครัวไปนั่งเล่นที่บริเวณวัด แต่ต้องตื่นตาแปลกใจกับอาคารทรงแปลกตารูปร่างลักษณะภายนอก เป็นตอไม้ขนาดใหญ่สีน้ำตาลอมดำตามธรรมชาติของต้นไม้และเปลือกไม้
หลายๆ จุดของอาคารรูปตอไม้ขนาดใหญ่นี้มีร่องรอยคล้ายถูกไฟเผาไหม้จนเห็นเป็นถ่านไม้สีดำในบางจุดมีสีแดงระเรื่อเหมือนว่าตอไม้ยังติดไฟอยู่ มองเผินๆ จะไม่รู้สึกว่านี่คือ “เมรุเผาศพ”
ปกติเมรุเผาศพตามวัดทั่วไปที่เราๆ ท่านๆ เห็นจะเป็นอาคารปลูกสร้างแบบ 4 เหลี่ยม มีบันไดขึ้น 3 ด้าน และประดับประดาด้วยลายแบบไทยต่างๆ แต่เมรุของวัดอรัญญิกแห่งนี้กลับมีการก่อสร้างที่ผิดแผกจากเมรุทั่วไป
ถามพุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญด้วยกันก็ไม่มีใครบอกแต่ชี้ไม้ชี้มือไปที่พระอาจารย์สุดใจ อธิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดอรัญญิก คือผู้ให้คำตอบได้เคลียร์ที่สุด จึงไปกราบนมัสการถามท่านก็ได้บอกสาเหตุที่สร้างเมรุไม่เหมือนที่วัดอื่นๆ เพราะต้องการให้เป็นปริศนาธรรมแก่ญาติโยมได้ปลงสังเวชพิจารณาได้ว่าสังขารไม่เที่ยง
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ”ร่างกายมนุษย์เมื่อตายแล้วก็เหมือนขอนไม้หรือตอไม้ที่ไหม้ไฟที่จะทรุดโทรมไปตามกาลเวลาเป็นสัจธรรมที่ทุกคนต้องพบเจอ
คนเราเกิดมาไม่มีอะไรติดตัว...เมื่อตายไปแล้วก็ไม่ได้เอาอะไรไปด้วย แม้ว่าจะมีเงินเป็นพันหมื่นล้านบาท


