ปปง.อายัดอีก100ล้านแก๊งยักยอกสจล.รวมรถหรู"บอยปกรณ์"
ปปง.แถลง อายัดทรัพย์ แก๊งยักยอก สจล.อีก 178รายการ กว่า 100ล้าน รถหรูดาราดัง "บอย ปกรณ์" โดนด้วย ด้านตร.เตรียมออกหมายจับอีก 2 ราย
ปปง.แถลง อายัดทรัพย์ แก๊งยักยอก สจล.อีก 178รายการ กว่า 100ล้าน รถหรูดาราดัง "บอย ปกรณ์" โดนด้วย ด้านตร.เตรียมออกหมายจับอีก 2 ราย
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยว่า ปปง. มีการดำเนินการร่วมกับกองปราบปรามในการตรวจสอบและวิเคราะห์เส้นทางการเงินเพื่อดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบังหรือ สจล.กว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พศ.2542 ว่าขณะนี้มีการออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องไว้ชั่วคราว 6 คำสั่ง จำนวน 178 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท ดังนี้ 1.เงินฝากธนาคาร 130 รายการ 2.สลากออมสิน 7 รายการ 3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 30 รายการ 4.ห้องชุด 2 รายการ 5.รถยนต์ 6 รายการ เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ลัมโบกินี เป็นต้น 6.รถจักรยานยนต์ 3 รายการ
ซึ่งเป็นของหรืออยู่ในความครอบครองของ 1.นายทรงกลด ศรีประสงค์ 2.นางสาวอำพร น้อยสัมฤทธิ์ 3.นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด 4.นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ 5.นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ 6.นายจิรัฏฐ์ ศิริภัครวรกุล 7.นางระดม มัทธุจัด 8.นางสาวจุฑารัตน์ ปัดภัย 9.นายสมศักดิ์ ยอดย้อย 10.นายจิตร แผนดี 11.นางสาวจันทร์จิรา โสประดิษฐ์ 12.นางสมบัติ โสประดิษฐ์ 13.นายเอนก ยั่งเจริญ 14.นางสาวโสมจำรัส แจ่มจำรัส 15.นางสาววันเพ็ญ นิ่มเรือง 16.นายสุกฤษ เขียวนันใจ 17.นายปฐมพงษ์ ศรีโรจน์ 18.นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ 19.นายสุรพล ตรงต่อกิจ 20.นางนกคล้า ตรงต่อกิจ 21.นายสนั่น มัทธุจัด 22.บริษัท มัทธุจัด จำกัด 23.บริษัท แกรนด์ บัคเก็ต ยูนิเวอร์แซล เซอร์วิส จำกัด 24.บริษัท แอคติ้งวัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด โดยมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน เพื่อทำการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ปปง. มีความจำเป็นต้องอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบถึงแม้บางรายการจะมีการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนแล้วก็ตาม เนื่องจากถึงแม้ผู้ครอบครองจะไม่ถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าวแต่ทรัพย์สินนั้นๆมีความเชื่อมโยงกับคดีจึงมีความจำเป็นต้องตรวจสอบเพิ่มโดยใช้อำนาจตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด โดยหลังจากนี้เตรียมเรียกนายปกรณ์ เข้าชี้แจงที่มาของรถดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ปปง.อีกครั้ง และเตรียมขยายผลยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก
พ.ต.อ. สีหนาท กล่าวว่า ในกรณีของนายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือบอย ดารานักแสดงชื่อดัง ที่ได้ซื้อรถหรูจากนายกิตติศักดิ์ ปปง.ได้มีคำสั่งอายัดออกไปแล้ว รอเพียงให้นายปกรณ์นำรถมามอบให้ ซึ่งหากนายปกรณ์ไม่นำมามอบให้ภายใน 30 วัน ทางสำนักงานปปง.ก็จะขอคำสั่งศาลเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ส่วนสาเหตุที่ต้องดำเนินการอายัดรถหรูนั้น เป็นเพราะว่านายกิตติศักดิ์นำเงินที่ได้มาจากการยักยอกทรัพย์โดยตรงจากสจล.มาซื้อรถคันดังกล่าวในราคา 20 ล้าน จากนั้น 2 เดือนต่อมาได้นำมาปล่อยขายให้นายปกรณ์ในราคา 13 ล้าน ซึ่งถือว่าผิดวิสัยเป็นอย่างมาก จึงต้องทำการอายัดรถมาเพื่อตรวจสอบ
"นายปกรณ์สามารถเดินทางเข้ามาชี้แจ้งการได้มาของรถคันดังกล่าวได้ หากทางปปง.ตรวจสอบแล้วว่านายปกรณ์ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็จะสามารถทำเรื่องถอนการอายัดรถแล้วคืนในนายปกรณ์ได้ ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินเบื้องต้นที่สามารถเปิดเผยได้นั้น ขณะนี้ทางปปง.ได้ทำการยึดและอายัดไว้ได้เป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทแล้ว และคาดว่าจะมีมากกว่านี้" เลขาปปง. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตรวจสอบย้อนหลังของการทำธุรกรรมทางการเงินของขบวนการดังกล่าวหรือไม่ พ.ต.อ.สีหนาท ตอบว่า เรื่องการตรวจสอบย้อนหลังนั้นทำอยู่แล้ว ตรวจย้อนหลังไปหลายปีตั้งแต่ยังไม่พบการทุจริต พบว่ามีหลายบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง มีส่วนเชื่อมโยง มีการทำธุรกรรมทางการคเงินตลอดเวลา และใครก็ตามที่พบว่ามีการเกี่ยวข้องในกรณีนี้จะถูกตรวจสอบทั้งหมด ส่วนในกรณีมหาวิทยาลัยอื่นๆที่มีการทุจริตนั้น ทางปปง.ก็เคยตรวจสอบพบมาแล้ว แต่เราจะไม่ย้อนกลับไปตรวจสอบทุกมหาวิทยาลัย จะตรวจสอบแค่ที่ถูกแจ้งมาว่ามีการกระทำความผิดเท่านั้น
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า กรณีของน.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้นางเอกสาวนั้น หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปว่าไม่มีความผิดก็เป็นไปตามคดีอาญา แต่สำหรับทางปปง.นั้น หากตรวจสอบได้ว่าพิงกี้ได้ผลประโยชน์หรือผลกำไรจากการถือหุ้นของบริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด ทางปปง.ก็จำเป็นจะต้องยึดทรัพย์นั้น แต่หากไม่ได้รับผลกำไรจากบริษัท ก็ไม่สามารถจะไปดำเนินการยึดทรัพย์ของพิงกี้ได้ เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็อีก1-2 สัปดาห์ ปปง.จะมีการสรุปผลการยึดทรัพย์อีกครั้ง เนื่องจากยังมีบุคคลอีกจำนวนมาก ที่พบว่ามีการเชื่อมโยงกับขบวนการในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังขอให้ศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการนี้อีก 2 คน โดยหนึ่งคนในนั้นเป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกับนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องที่กำลังหลบหนีหมายจับอยู่ในต่างประเทศ สำหรับแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้มีชีวิตความเป็นอยู่หรูหรา ใช้ของแบรนด์เนม รถยนต์ซุปเปอร์คาร์
พ.ต.อ.ณษ ระบุด้วยว่า ในส่วนผู้ร่วมขบวนการที่มีพฤติการณ์กระจายเงินไปตามบัญชีต่างๆนั้นตำรวตจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พร้อมติดตามอายัดทรัพย์คืนมาให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม วันนี้ ชุดสืบสวนได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี หลังจากได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม และรายงานผลการลงพื้นที่ ที่กองปราบปราม


