posttoday

97 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

21 ธันวาคม 2557

วัดสัมพันธวงศ์ และมูลนิธิหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ จัดงานอายุวัฒนมงคล 97 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.9)

โดย...สมาน สุดโต

วัดสัมพันธวงศ์ และมูลนิธิหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ จัดงานอายุวัฒนมงคล 97 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.9) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เยาวราช อย่างโอฬาร 2 วัน วันที่ 28-29 ธ.ค. 2557

ฎีกาเชิญชวนร่วมงาน แจ้งว่าปีนี้ชมรมผู้ป่วยโรคหืด โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่ามหากุศล 299 กอง กองละ 10,000 บาท ในงานวันเกิด 97 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วันที่ 29 ธ.ค. 2557 เวลา 12.00 น. เพื่อหาทุนสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้และโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แห่งความจงรักภักดีต่อพระธรรมวินัย

ข้อมูลในหนังสือที่ระลึกงานวันเกิดสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อายุ 96 ปี ได้บรรยายจริยาวัตรเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถร ป.ธ.9) ว่าเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นับแต่มีการสถาปนาราชทินนามนี้ และเป็นราชทินนามเดียวที่สถาปนาเฉพาะพระเถระฝ่ายธรรมยุต ซึ่งต่างจากราชทินนามอื่นที่ใช้สถาปนาสมเด็จพระราชาคณะทั้งสองฝ่าย (มหานิกายและธรรมยุต) สลับกันซึ่งมีอยู่ 8 รูป

เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นพระธรรมยุติกนิกาย ที่มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย งดงาม น่าเลื่อมใส ดุจเดียวกับพระกรรมฐาน หรือที่เรียกกันว่าฝ่ายวิปัสสนาธุระ ครั้งหนึ่งท่านเคยเดินธุดงค์รอนแรมไปบนเส้นทางเดียวกับพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เน้นการปฏิบัติภาวนา แต่กลับถือการปฏิบัติเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ก่อนจะหันเหชีวิตมุ่งหน้าสู่การศึกษาพระปริยัติธรรม หรือที่เรียกว่าฝ่ายคันถธุระ ศึกษาพระปริยัติธรรมสั่งคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนได้เป็นเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อ พ.ศ. 2499  และเป็นพระธรรมยุตเพียงไม่กี่รูปที่เป็น ป.ธ.9 ในยุคนั้น เมื่อเรียนได้ประโยคสูงเช่นนี้จึงน้อมนำหลักธรรมความรู้มาปฏิบัติอบรมสั่งสอนพุทธบริษัท บริหารการคณะสงฆ์ นำความเจริญรุ่งเรืองให้กับพระพุทธศาสนาโดยรวม

ขณะเดียวกันตลอดเส้นทาง 97 ปี ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็มิได้ร้างราการปฏิบัติวิปัสสนา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งวิถีชีวิตในเพศบรรพชิต ที่มีพ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐาน สั่งสอนให้นำเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเน้นที่การฝึกจิตสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญาในลักษณะของภาวนามยปัญญา เพื่อให้เข้าถึงหลักธรรมของศาสนา ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติภาวนา คือแพรวิเศษที่พาข้ามทะเลสังสารวัฏ ที่ถือเป็นแนวทางหลักของพระภิกษุธรรมยุติกนิกายฝ่ายกองทัพธรรมสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่ได้ถือเป็นหัวใจที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

ความเป็นคันถธุระและวิปัสสนาธุระ เจ้าประคุณสมเด็จฯ สามารถผสมผสานถือปฏิบัติได้อย่างลงตัวเหมาะสม จนมีการเรียกขานในกลุ่มชนที่ศรัทธาว่าท่านเป็น “กรรมฐานกลางกรุง”

แม้แต่กุฎีที่พำนักของท่านในปัจจุบันก็สะท้อนความเป็นกรรมฐาน เพราะเคยเป็นที่พำนักของพระอาจารย์ดูลย์ อตุโล หรือพระรัตนากรวิสุทธิ์ เจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดสุรินทร์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อีกรูปหนึ่ง ปัจจุบันหน้ากุฎีก็ยังติดป้ายด้านหน้าไว้ว่า กุฎีหลวงปู่ดูลย์ อตุโล รวมทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์กรรมฐานอื่นอีกหลายรูป

เจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังได้ชื่อว่าเป็นพระมหาเถระที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ทั้งนี้ เนื่องจากปฏิปทาจริยาวัตรของท่านกอปรด้วยเมตตาธรรมอันล้ำเลิศงดงาม จัดเป็นปาริสุทธิคุณ และเป็นเนื้อนาบุญของพวกเราชาวพุทธทั้งมวล ท่านมีวัตรปฏิบัติอยู่ในศีลที่สมบูรณ์ ทั้งยังมีฐานะหนักแน่นเปรียบเสมือนป่าใหญ่ ที่เป็นที่พึ่งพิงของเหล่าต้นไม้เล็กนานาชนิด ทั้งยืนต้นและล้มลุก รวมทั้งเป็นร่มเงา มีกิ่งก้านสาขาแผ่กว้างให้คนเดินทางได้อาศัยร่มเงาพัก นกกาอาศัยเกาะกิ่ง

มิพักต้องกล่าวถึงจริยาวัตร คือ ความประพฤติที่เรียบร้อย งดงาม เต็มพร้อมด้วยสิกขาวินัยกฎระเบียบการปฏิบัติของท่านก็เรียบง่ายถูกต้องทั้งในสมาคมสาธารณะและที่รโหฐาน จะเป็นชุมชนใหญ่เล็กท่านทำตนเป็นกลางเสมอเหมือน

ส่วนปฏิปทา คือ ทางดำเนินสายกลางพอเหมาะพองาม ไม่ชอบระคนด้วยกลุ่มชนมาก ชอบหลีกเร้นอยู่ในที่สงบ ชอบชีวิตธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร

เจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังมีเมตตาธรรมเป็นล้ำเลิศ มีสมาธิดี เปี่ยมด้วยเมตตา ถ้าได้สนทนาธรรมกับท่านสิ่งที่เป็นคำสอนอันสำคัญสำหรับชาวเราทั่วไป ก็คือ ท่านจะสอนให้หัดแผ่เมตตา ส่งความปรารถนาดีแก่คน สัตว์ ศัตรูหมู่มาร สรุปได้ว่า ท่านสมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยศีล จริยาวัตร ปฏิปทา คุณธรรม อันยอดเยี่ยม

ที่สำคัญในปีที่ 90 ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทรงสดับพระธรรมเทศนา เนื่องในโอกาสวันมาหปวารณา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 (เป็นการส่วนพระองค์) ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 26 ต.ค. 2550 ถือเป็นมงคลอย่างยิ่ง

สังเขปประวัติ

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) เกิด ณ วันที่ 29 ธ.ค. 2460 ที่บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น จ.อำนาจเจริญ) โยมบิดาชื่อช่วย โยมมารดาชื่อกา นามสกุล ก่อบุญ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 11 คน

บรรพชา พ.ศ. 2472 ที่วัดบ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น จ.อำนาจเจริญ) โดยมีญาคูโม้เป็นพระอุปัชฌาย์

วันที่ 8 พ.ค. 2480 อายุ 20 ปี อุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ โดยมีพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นที่ พระรัชชมงคลมุนี เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุวรรณรังษี (สุวรรณชุตินฺธโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูปลัดเส็ง ทินฺนวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (ภายหลังรับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระเนกขัมมมุนี)

การศึกษาพระปริยัติธรรม

พ.ศ. 2476 นักธรรมชั้นตรี

พ.ศ. 2478 นักธรรมชั้นโท

พ.ศ. 2480 เปรียญธรรม 3 ประโยค

พ.ศ. 2481 เปรียญธรรม 4 ประโยคและนักธรรมชั้นเอก

พ.ศ. 2484 เปรียญธรรม 5 ประโยค

พ.ศ. 2486 เปรียญธรรม 6 ประโยค

พ.ศ. 2488 เปรียญธรรม 7 ประโยค

พ.ศ. 2492 เปรียญธรรม 8 ประโยค

พ.ศ. 2499 เปรียญธรรม 9 ประโยค

สมณศักดิ์

5 ธ.ค. 2499 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอริยเมธี

5 ธ.ค. 2507 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชกวี

5 ธ.ค.2404 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปัญญามุนี

5 ธ.ค. 2519 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมบัณฑิต

5 ธ.ค. 2532 เป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองที่ พระอุดมญาณโมลี

5 ธ.ค. 2544 ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

นี่คือประวัติพระมหาเถระสุปฏิปันโน พระป่ากลางกรุง งดงามด้วยจริยาวัตร ปฏิปทา เคร่งครัดในพระวินัย และมีหลักยึดว่า ไม่ติฉิน ไม่นินทา ไม่ให้ร้าย ไม่พูดซ้ำซาก

ข่าวล่าสุด

นาวิกโยธิน บุกยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลัง จ.ตราด ปักธงไทยสำเร็จ