posttoday

มือรับม็อบ สู่เสนาบดีพญานาค

21 ธันวาคม 2557

พลันที่ได้ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของ อำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เห็นกรอบรูปภาพบุคคล

พลันที่ได้ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของ อำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เห็นกรอบรูปภาพบุคคลทางประวัติศาสตร์ ขาว-ดำ อยู่ 3 กรอบ วางเด่นเป็นสง่า ที่แฝงด้วยความขลัง นั่นคือกรอบรูปภาพของจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ และเจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ ซึ่งองศาการวางกรอบรูปนี้ หากเงยหน้ามองจากโต๊ะทำงานของอำนวย ก็จะประสานสายตากันพอดี

อำนวย เล่าว่า ทั้ง 3 ท่านนี้ เป็นคนที่อยู่ในยุคก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีบทบาทมากสำหรับกระทรวงเกษตรฯ และเรื่องนี้ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจที่เอาไว้เตือนตัวเองในการทำงาน ว่าต้องสู้งาน ต้องทำให้ได้ ส่วนบุคคลที่ยึดถือเอาเป็นแบบอย่างคือ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เพราะท่านเป็นผู้ที่ตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ได้ดี กล้าตัดสินใจทุกครั้งที่เผชิญปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีอำนาจสูงสุด หรือช่วงเวลาที่ไม่มีอำนาจ เวลาตกอับ ท่านก็สามารถยืนหยัดอยู่ได้จริง

รมช.เกษตรฯ ยังพาเดินไปอีกมุมหนึ่งของห้องเป็นส่วนของหิ้งพระ พร้อมกับเล่าว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นในห้องนี้มีมาก แต่ไม่มีของตัวเองเลย มีแต่คนเอามาให้ ที่ประหลาดคือ คนเอาแต่หลวงปู่ทวดมาให้เยอะมาก แสดงว่าโชคเข้าข้างเราแน่

“ผมคิดเล่นๆ หลวงปู่ทวดท่านจะมาช่วยผมเรื่องยางพาราในภาคใต้แน่เลย (หัวเราะ) แต่ของศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เวลาผมหมดวาระ หมดหน้าที่ลง เวลากลับไปคงเอาไว้ที่เดิม ไม่เอากลับไปด้วย ผมรู้ตัวเองดีว่ามาแล้วก็ต้องไป มาแต่ตัวก็ต้องกลับแต่ตัว แต่จะฝากผลงานไว้”

ที่มาที่ไปของการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีล็อตสุดท้ายในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากที่มีกระแสข่าวซุบซิบกันว่าเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ เพราะ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือหม่อม อุ๋ย รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ อำนวยชี้แจงว่า “จริงๆ แล้วท่านปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ เสนอชื่อผมหลังจากเริ่มเกิดปัญหาราคายางพาราตกต่ำขึ้น โดยท่านปีติพงศ์บอกกับนายกฯ ว่าถ้าได้อำนวยมาช่วยก็คงจะดี จะได้มาช่วยแบ่งเบางานพวกนี้ได้ ไม่ต้องไปเรียนงาน ซึ่งนายกฯ กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ก็เห็นด้วย

“เหตุสำคัญที่ทำให้คนมองว่าผมเป็นเด็กหม่อมอุ๋ย คงเพราะผมจบเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับคุณชายอุ๋ยมั้ง แต่ตอนเรียนผมแพ้เขานะ เขาได้เหรียญทอง ผมได้เหรียญเงิน ยังเสียใจอยู่นิดหน่อยทำไมผมได้แค่เหรียญเงิน ผมควรจะได้เหรียญทอง และพอเรียนจบจากนั้นผมกับคุณชายอุ๋ยก็เดินคนละทาง” อำนวย เล่า

รมช.เกษตรฯ เล่าประวัติการทำงานว่า คลุกคลีกับงานด้านการเกษตรมานานแล้ว และหน้าเขาเป็นยี่ห้อสินค้าเกษตรทุกตัว ครั้งแรกที่ได้เริ่มงานช่วงปี 2511 เป็นนักเขียนข่าววิเคราะห์สถานการณ์ทางการเกษตร ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และเขียนหนังสือข่าวพาณิชย์รายสัปดาห์ รวมทั้งเขียนหนังสือลงจดหมายเหตุสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยทุกสัปดาห์ ซึ่งหากินอยู่กับเรื่องสินค้าเกษตรมาตลอด

นอกจากนี้ มีโอกาสได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่องน้ำตาล จากนั้นสมาคมน้ำตาลก็ให้ไปเป็นผู้จัดการสมาคมน้ำตาล และก็มาตั้งบริษัทส่งออกน้ำตาลของประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ บริษัททำงานอยู่หลายปี นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษสาขาเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารองค์การสวนยาง กรรมการ ธ.ก.ส. และองค์กรอื่นอีกหลายองค์กร รวมถึงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง

เมื่อเข้าสู่เวทีการเมือง ได้สมัครเป็น สส. 2 สมัยที่ จ.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เมื่อปี 2535 ซึ่งเวลานั้นมีความสนใจเรื่องสินค้าเกษตร หนี้เกษตรกร และคนจน จากนั้นได้เป็นเลขาฯ รมช.คลัง ของนิพนธ์ พร้อมพันธ์ุ ต่อมาเป็นเลขาฯ รมว.คลัง ให้กับธารินทร์ นิมมานเหมินท์ และเลขาฯ รมว.อุตสาหกรรม ไตรรงค์ สุวรรณคีรี สุดท้ายก็ได้มาเป็น รมช.คลัง

หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกรอบ ในช่วงที่มี ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ อำนวยก็ได้เป็นรองนายกฯ ฝ่ายการเมือง มีหน้าที่รับม็อบ และดูสินค้าเกษตรทั้งหมด พอยุครัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เป็นเลขาฯ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รมว.คลัง ได้ดูเรื่องประกันรายได้อีก สุดท้ายพอเป็นช่วงรัฐบาลเพื่อไทย ก็มีโอกาสเข้ามาช่วยงานอีก โดยเฉพาะยุคที่ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร มาเป็น รมช.เกษตรฯ ดูเรื่องยางพารา ก็ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นที่ปรึกษาอีก ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าประวัติความเป็นมาเป็นเรื่องของเกษตรทั้งสิ้น

“เวลาที่คนเจอปัญหาสินค้าเกษตร ก็คงต้องมีภาพของผมปรากฏอยู่ พอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มมีปัญหาเรื่องสินค้าเกษตร ปรากฏว่าไม่มีหน้าของใครเป็นสินค้าเกษตรเลย นั่นคงเป็นช่วงจังหวะเวลาพอดี ประกอบกับที่ผ่านมาเคยเดินหน้าเรื่องมวลชน มีความอดทน รู้เรื่องเกษตรดี เป็นคนมีพรรคพวก เคยอยู่เคยทำงานมาหลายพรรค ผู้ใหญ่คงคิดว่าเราทำงานได้”

อำนวย เล่าต่อว่า การทำงานวันนี้ได้เอาประสบการณ์จากการทำงานในอดีตที่ผ่านมามาปรับใช้ทั้งหมด การใช้เงินหลวงต้องคุ้มค่า เพราะเป็นคนกระทรวงการคลังมาก่อน ดังนั้นไม่มีทางที่จะบอกให้ซื้อแล้วเอาพวกตัวเองมาขาย เอาเข้ากระเป๋ามาเวียนอีกรอบ เราต้องสกัดคนพวกนี้

สำหรับคำปรามาสที่ว่า เข้ามาเป็น รมช.เกษตรฯ คงไม่สามารถแก้ปัญหายางพาราได้ เพราะเป็นสินค้าที่แก้ยากมาก อำนวยคลายใจให้ฟังว่า นั่นคือสิ่งที่คนตั้งโจทย์ไว้ แต่ถ้าใครติดตามจะเห็นว่าได้ทำอะไรไว้มาก

“ผมไม่ได้คิดว่าคนจะมาปรามาสผมว่าจะทำได้หรือไม่ แต่คิดถึงโอกาสมากกว่า เมื่อมีโอกาสแล้วต้องทำ ประโยคปรามาสต่างๆ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีผลอะไรกับผม เพราะรู้ตัวเองดีว่าทำได้หรือไม่ได้ เมื่อก่อนผมเป็นอะไร ตอนนี้เป็นอะไรรู้ตัวดีอยู่ เมื่อก่อนเคยนั่ง เคยยืนอยู่บนหลังคารถ ด่าคนอื่นให้แก้ปัญหาหนี้เกษตรกร ผมไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องร้ายแรง เวลานี้ต้องนึกถึงเรื่องหน้าที่ ความรับผิดชอบ ผมว่าคนสงสารและให้กำลังใจผมเยอะ เพราะเขารู้ว่าผมมาเพื่อทำงานใหญ่ ไม่ท้อถอย วิธีของผมคือการเจรจา แก้ปัญหาให้เห็น

“สุดท้ายการตั้งเป้าหมายของการทำงานครั้งนี้คือ ถ้าสามารถชวนเกษตรกร ผู้ประกอบการ ข้าราชการ เข้ามาปฏิรูประบบยางได้ ผมว่ามันจบ แต่ถ้าปฏิรูปไม่จบไม่สำเร็จ ก็จะทำบันทึกสิ่งที่จะทำต่อ และหากไม่สำเร็จก็คิดว่าคงไม่กลับมาในแวดวงนี้อีก เพราะเดิมทีคิดว่าจะออกจากวงการมานานแล้ว ทั้งคิดอยากจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ไปทำงานสมาคมบ้าง สหกรณ์บ้าง ไม่ได้คิดว่าจะมีโอกาสมาทำการเมืองอีก แต่การเข้ามาเพราะไม่ได้คาดหวัง เราทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น อาวุธที่มีเที่ยวนี้ขนออกมาใช้หมด เทหมดกระเป๋าแล้ว”

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต