จ่อเรียกหุ้นส่วน"สุดาทิพย์"สอบคำให้การ

ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกหุ้นส่วน"สุดาทิพย์ ม่วงนวล" สำนวนพงศ์พัฒน์คืบหน้าร้อยละ90เหลือผลตรวจของกลาง

พล.ต.ต.ภัครพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้มีการสอบปากคำผู้เสียหาย และนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา112แล้วนางสุดาทิพย์รับว่าเป็นผู้กระทำเพียงคนเดียว ซึ่งรายละเอียดต่างๆ อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสรุปสำนวนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 15 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ชุดสอบสวน สน.สามเสน จะประชุมร่วมกับคณะทำงาน บก.น 1 ที่ บช.น. และจะทำการออกหมายเรียก น.ส.ปาลิตา หลักเฉลิมพร ที่มีมีชื่อปรากฏร่วมธุรกิจกับนางสุดาทิพย์เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.สามเสนในที่ 18 ธ.ค.นี้

พล.ต.ต.ภัครพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว ที่นายชากานต์ ภาคภูมิ และนายณัฐพล สุวะดี มีการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเรียนในสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) และนายณัฐพลยังคงให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ แต่พนักงานสอบสวนได้สอบถามพยานแวดล้อมรวมถึงคำให้การจากทางมหาวิทยาลัยเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนเสร็จภายในอาทิตย์หน้า
         
คณะทำงานชุดสอบสวน (บช.น.) มีการสรุปสำนวนคดีแบ่งเป็นคดีหมิ่น ม.112 มี 4 คดี ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร สน.พระโขนง สน.สามเสน และ สน.ลาดพร้าว คดีอาวุธปืน 1 คดี ในพื้นที่ สน.คันนายาว ส่วนคดีหมิ่น ม.112และม.157 ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของพล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.มีการสรุปสำนวนส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ไปแล้วทั้งหมด 3 คดี คือ คดีกรรโชกทรัพย์ทวงหนี้ผู้เสียหาย 30 ล้านบาท ท้องที่สน.พระโขนง คดีบังคับข่มขู่ให้ลดค่าเสียหายมูลค่า 120 ล้าน เหลือเพียง 20 ล้านบาท ท้องที่สน.วัดพระยาไกร และคดีอาวุธปืน ท้องที่ สน.คันนายาว

ส่วนคดีหมิ่น ม.112 ท้องที่ สน.สามเสน และ สน.ลาดพร้าว จะเร่งสรุปสำนวนภายในอาทิตย์หน้า รวมถึง คดีที่พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ที่มีความคืบหน้าของคดีไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลือในเรื่องการตรวจของกลางที่เจ้าหน้าที่จะเร่งสรุปสำนวนส่งให้ ตร. โดยเร็วที่สุด