ตัดถนนเขาใหญ่ เส้นทางอัปยศมรดกโลก
นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ปัญหาการตัดไม้ทางขึ้นเขาใหญ่ทุกฝ่ายต่างอ้างว่าทำตามขั้นตอน แต่กลับทำร้ายความรู้สึกประชาชน ที่ผ่านมากรมทางหลวงเคยสร้างถนนในพื้นที่อนุรักษ์หลายแห่งทั่วประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านขั้นตอนของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และมีการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อนสร้างถนน แต่เมื่อสร้างเสร็จแล้ว นกเงือกและสัตว์ป่าที่เคยชุกชุมก็ไม่มีให้เห็นอีกเลย แม้ป่าจะยังอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมก็ตาม
“
ถนนทุกเส้นที่ตัดผ่านป่าจะทำให้เกิดชุมชนขึ้นมารอบๆ และเกิดการขยายพื้นที่เกษตรกรรมตามมา ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนไปจากเดิม ถามว่ากรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้บ้างหรือไม่” นายศศิน กล่าวนายเกรียง ฤทธิ์เจริญ ตัวแทนจากกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ กล่าวว่า นอกจากมีการตัดต้นไม้เพื่อขยายถนนธนะรัชต์แล้ว ถนนในเส้นทางพื้นที่กันชนเขาใหญ่ก็มีการตัดต้นไม้ในลักษณะเดียวกัน
“
เส้นทางจากเขาใหญ่ไปทางปากช่อง บริเวณแก่งหางแมว อ.มวกเหล็ก ไป อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระยะทางประมาณ 2030 กิโลเมตร สองข้างทางมีทั้งบ้านคนและรีสอร์ต มีการตัดต้นไม้เพื่อขยายเป็น 4 เลน บางช่วงถึงขั้นตัดเนินเขาทิ้งเพื่อปรับดินเป็นระนาบเดียวกัน ซึ่งบริเวณนี้ร้ายแรงกว่าถนนธนะรัชต์มาก เพราะเป็นพื้นที่บัฟเฟอร์โซน แต่ยังไม่มีใครไปดู” นายเกรียง กล่าวนายสุรจิต ทิพยเกษร ผู้อำนวยการกลุ่มงานสิ่งแวดล้อม กรมทางหลวง กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องขยายถนนธนะรัชต์ เพราะมีการเติบโตของรีสอร์ตมากขึ้นจนทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด จึงอยากถามว่าเหตุใดกรมอุทยานฯ ไม่ควบคุมรีสอร์ตที่ผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก และเห็นด้วยว่าควรมีการกำหนดแนวกันชนให้ชัดเจน
นายสุรจิต กล่าวว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงยังมีโครงการขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน
–โคราช 200 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่ออีสาน 17 จังหวัด แต่เนื่องจากในช่วง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี อยู่ห่างจากป่าเขาใหญ่เพียง 4 กิโลเมตร ดังนั้นจึงอาจต้องชะลอโครงการนายธีรภัทร์ ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ และกรมทางหลวง จะกำหนดมาตรการแก้ปัญหาการตัดถนนในอนาคต โดยจะใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศมาตรวจสอบว่าสุ่มเสี่ยงต่อระบบนิเวศหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีก
นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนวิจัยอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อถนนไปถึงที่ใด การบุกรุกป่าก็มักจะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งการอนุรักษ์พื้นที่มรดกโลกตามหลักสากลจะต้องกำหนดเขตพื้นที่กันชน 3 กิโลเมตร ดังนั้นการดำเนินการต่างๆ ในพื้นที่มรดกโลกจึงต้องใช้ความระมัดระวัง
ทั้งนี้ การฟื้นฟูพื้นที่ขยายถนนตั้งแต่กิโลเมตรที่ 210 ที่มีการเสนอให้ปลูกต้นไม้ทดแทนนั้น คาดว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะต้นไม้ใหญ่ที่ขุดมาจากที่อื่นมีโอกาสรอดยาก


